ในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดรุนแรงและสร้างความหวาดผวาให้กับผู้คนทั่วโลกเช่นนี้ ดูเหมือนว่า ‘ฟู้ดเดลิเวอรี’ จะกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากผลกระทบที่เกิดขึ้นมากที่สุด เนื่องจากเป็นโซลูชันที่ช่วยตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบาย ทั้งยังลดความเสี่ยงในการออกไปพบปะกับผู้คนในที่สาธารณะ
Grab ประเทศไทย ผู้ให้บริการสั่งอาหารออนไลน์ ‘GrabFood’ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่กำลังระบาด ยอดการสั่งอาหารของพวกเขาบนแพลตฟอร์มมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากทั้งกลุ่มผู้ใช้บริการเดิมและผู้ใช้บริการใหม่
โดยช่วงเวลาที่คนนิยมสั่งอาหารจาก GrabFood มากที่สุดคือเที่ยงและเย็น สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยจำนวนมากเริ่มระมัดระวังการออกไปข้างนอกโดยไม่จำเป็น
ขณะที่ยอดการใช้บริการการเดินทางผ่าน Grab ของลูกค้าคนไทยยังคงที่ในปริมาณใกล้เคียงเดิม ที่ลดลงไปบ้างคือกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
ด้าน GET ให้ข้อมูลกับ THE STANDARD ว่า สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในขณะนี้อาจจะยังไม่สามารถชี้ชัดภาพรวมต่อผลกระทบต่อธุรกิจบริษัทได้สักเท่าไร แต่อาจจะมีผลกระทบในเชิงการปรับตัวการให้บริการมากกว่า ที่ชัดที่สุดอาจจะเป็นเอฟเฟกต์จาก ‘ฝุ่นพิษ’ ที่ทำให้คนสั่งอาหารผ่าน GET FOOD เพิ่มสูงขึ้น
“ผมมองว่ายังไม่มีอะไรชี้ชัดว่าโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเรา อาจจะกระทบต่อวิธีที่เราทำธุรกิจมากกว่า เพราะเราเป็นธุรกิจที่ดูแลเรื่องอาหาร เราก็ต้องดูแลความปลอดภัยของเราให้ดีขึ้น สื่อสารกับคนขับมากขึ้นว่าจะดูแลตัวเองอย่างไร แต่เราก็ศึกษาตัวอย่างอย่างในจีน ที่ตอนนี้ฟู้ดเดลิเวอรีเข้ามามีบทบาทมากๆ ในการใช้ชีวิตของคน เพื่อให้พร้อมรับมือหากประชาชนมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น
“ที่มีผลกระทบคือเรื่องฝุ่น เนื่องจากคนเลือกออกจากบ้านน้อยลง สั่งอาหารมาทานกันเยอะขึ้น และธุรกิจเราก็สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ตรงนี้ ให้คนเมืองได้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น”
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า