×

วิกฤตโควิด-19 ทำชาวเอเชียในนิวยอร์กตกงานเพิ่มขึ้นเร็วสุดในทุกกลุ่มชาติพันธุ์

โดย THE STANDARD TEAM
11.10.2020
  • LOADING...
วิกฤตโควิด-19 ทำชาวเอเชียในนิวยอร์กตกงานเพิ่มขึ้นเร็วสุดในทุกกลุ่มชาติพันธุ์

วันนี้ (11 ตุลาคม) ผลสำรวจ ‘ผลกระทบโรคโควิด-19 ต่อการจ้างงานชาวเอเชียในนครนิวยอร์ก’ ระบุว่า อัตราการว่างงานของชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียทั่วสหรัฐอเมริกาในปีนี้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.5 ในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นร้อยละ 14.5 ในเดือนเมษายน และร้อยละ 15 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในทุกกลุ่มเชื้อชาติทั่วประเทศ

 

ผลสำรวจที่จัดทำโดยสหพันธ์ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย (Asian American Federation) ชี้ว่า โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วประเทศอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะต่อคนงานชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในนครนิวยอร์กและครอบครัวของพวกเขา

 

ขณะเดียวกันอัตราการว่างงานของชาวเอเชียในนครนิวยอร์กอยู่ที่ร้อยละ 3.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งต่ำกว่าชาวอเมริกันเชื้อสายสเปนและคนผิวดำในนิวยอร์ก ก่อนจะเพิ่มขึ้นแตะร้อยละ 25.6 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในทุกกลุ่มชาติพันธุ์

 

ผลสำรวจอธิบายถึงสาเหตุดังกล่าวว่ากลุ่มชาติพันธุ์เอเชียแต่ละกลุ่มที่มีจำนวนมากในนครนิวยอร์กนั้นพึ่งพางานในอุตสาหกรรมผสมผสานที่มีลักษณะเฉพาะ และทั้งหมดล้วนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการสูญเสียงานในชุมชนของพวกเขา 

 

อุตสาหกรรมหลายภาคที่ว่าจ้างแรงงานชาวเอเชียรายได้น้อยได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการสูญเสียงาน ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องแต่งกาย ร้านเสริมสวยและร้านทำเล็บ ร้านซักรีด บริการด้านอาหาร แท็กซี่และรถร่วมโดยสาร และการค้าปลีก

 

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือด้านภาษาแก่ผู้ว่างงานชาวเอเชียในนิวยอร์ก การออกแบบโครงการพัฒนาแรงงานเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและกระจายประเภทงานที่ชาวเอเชียในนิวยอร์กต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้อพยพใหม่ ตลอดจนการขยายโครงข่ายความคุ้มครองทางสังคมให้ครอบคลุมประชากรทุกเชื้อสายในนิวยอร์ก

 

ทั้งนี้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเป็นหนึ่งในกลุ่มเชื้อชาติที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐฯ โดยครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 16 ของประชากรในนครนิวยอร์ก และร้อยละ 10 ของรัฐนิวยอร์ก อย่างไรก็ดี ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 1 ใน 4 อาศัยอยู่ใต้เส้นแบ่งความยากจน

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • สำนักข่าวซินหัว
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising