วันนี้ (26 มิถุนายน) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการเตรียมผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 5 ที่ดูเหมือนจะพ่วงมาด้วยเงื่อนไขที่ยุ่งยากกว่าเดิมนั้น โดยระบุว่าการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 5 จำเป็นต้องเพิ่มเงื่อนไขในการป้องกันการแพร่ระบาดมากขึ้น ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มาเป็นเวลา 32 วันติดต่อกันแล้วก็ตาม แต่สถานการณ์ของหลายๆ ประเทศทั่วโลกยังมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้เสียชีวิตหลักพัน และบางประเทศพบการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ด้วย จึงขอความร่วมมือในการปฏิบัติตาม 5 มาตรการหลัก รวมถึงการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ เพื่อให้เป็นวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจการ/กิจกรรมที่จะผ่อนคลายในระยะที่ 5 มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดสูง เนื่องจากมีความแออัดของผู้คนในสถานประกอบการ เช่น สถานบันเทิง ที่เคยเป็นสถานที่แพร่ระบาดของโควิด-19 ดังนั้น แอปพลิเคชันไทยชนะจึงมีความสำคัญในการควบคุมและติดตาม หากมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ดังกล่าว โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของประชาชน และข้อมูลจะถูกนำมาใช้เมื่อมีการแพร่ระบาดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โฆษก ศบค. ยังชี้แจงถึงกรณีการหารือเพื่อให้มีการเดินทางเข้ามาของกลุ่มนักธุรกิจ/นักลงทุน เดินทางเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศระยะสั้น ซึ่งอาจรวมถึงคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศ ที่สร้างรายได้จำนวนมากให้แก่ประเทศ โดยเฉพาะคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากประเทศจีน จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่จำเป็นต้องเข้ากระบวนการ State Quarantine แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการคุมไว้สังเกต ซึ่งจะต้องมีทีมแพทย์คอยติดตาม ต้องมีแผนการทำงานเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ และต้องผ่านระบบการตรวจคัดกรองโรคทั้งก่อนเข้ามาและก่อนออกจากประเทศ
พร้อมย้ำว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบเสรีเด็ดขาด แต่จะมีแต่เฉพาะนักธุรกิจ นักลงุทน แรงงานฝีมือ และคนต่างด้าวที่มีครอบครัวในประเทศไทย รวมถึงกรณีการทำ Travel Bubble นั้นยังไม่มีความชัดเจน เพราะจะต้องใช้เวลาศึกษา และคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบคอบ
อย่างไรก็ตาม ร่างฯ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อ Wellness and Medical Tourism นั้น ไม่ใช่เป็นการรักษาผู้ติดโควิด-19 แต่เป็นการแพทย์ด้านอื่นๆ เช่น การทำศัลยกรรมเสริมความงาม การรักษาอาการมีบุตรยาก เป็นต้น
ทั้งนี้ ศบค. ได้ขอให้ประชาชนติดตามผลการประชุม ศบค. ในวันจันทร์ (29 มิถุนายน) ที่จะมีการหารือถึงเรื่องการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 5, การอนุญาตให้บุคคลเดินทางมาจากต่างประเทศ, การขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ อีก 1 เดือน, มาตรการรองรับการเปิดการศึกษา กรณีเด็กชายแดน และการขอยกเว้นการปฏิบัติตามข้อกำหนดการเว้นที่นั่ง เว้นระยะห่าง 1 เมตร ในขบวนรถโดยสารสาธารณะ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์