×

“I want to be the greatest” คอรี กอฟฟ์ ดาวดวงใหม่วัย 15 ปี ของวงการเทนนิสหญิง

02.07.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • คอรี กอฟฟ์ นักเทนนิสสาววัย15 ปี จากสหรัฐฯ เอาชนะ วีนัส วิลเลียมส์ อดีตมือหนึ่งของโลกวัย 39 ปี ในรอบแรกของวิมเบิลดันไป 2 เซตรวด
  • คอรี กอฟฟ์ เป็นเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา ทั้งพ่อเป็นอดีตนักบาสฯ  และแม่ที่เป็นอดีตนักกรีฑา 
  • คอรีกลายเป็นนักเทนนิสอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเทนนิสยุคใหม่ ที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบเมนดรอว์ ศึกวิมเบิลดันได้ตั้งแต่ปี 1968 
  • เป้าหมายของเธอในวิมเบิลดันคือ การคว้าแชมป์ในปีนี้ และเป้าหมายกับกีฬาเทนนิสคือ การเป็นที่สุดของวงการในอนาคต

I am the greatest. I said that before, I knew i was – มูฮัมหมัด อาลี  

 

เป็นประโยคที่ มูฮัมหมัด อาลี ยอดตำนานมวยโลก ได้กล่าวไว้ ถึงความยิ่งใหญ่ที่เริ่มต้นขึ้นจากความเชื่อมั่นในศักยภาพ และความทุ่มเทของตนเองในการไล่ล่าความเป็นที่สุดของวงการ แม้ว่าเขาจะยังไม่ไปถึงจุดนั้นก็ตาม 

 

เมื่อเวลาผ่านไป คำพูดของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตคนมากมาย รวมถึงนักเทนนิสสาววัย 15 ปี จากสหรัฐฯ ที่มีชื่อว่า คอรี กอฟฟ์ 

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา คอรี กอฟฟ์ นักเทนนิสมือ 313 ของโลก เอาชนะ วีนัส วิลเลียมส์ อดีตนักเทนนิสมือหนึ่งของโลกจากประเทศเดียวกันไป 2 เซตรวด ด้วยสกอร์ 6-4 และ 6-4 ในรอบแรกของประเภทหญิงเดี่ยวในศึกวิมเบิลดัน ส่งผลให้ชื่อและผลงานของเขาขึ้นไปครองพื้นที่หน้าหนึ่งของสำนักข่าวกีฬาชื่อดังทั่วโลก 

 

 

เนื่องจากผลงานของเธอเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของใครหลายคนที่ได้ยินว่า นักเทนนิสวัย 15 ปี ที่เพิ่งได้ผ่านเข้ามาเล่นรอบเมนดรอว์ ศึกวิมเบิลดันได้เป็นครั้งแรก สามารถทำสถิติอายุน้อยที่สุดที่ผ่านเข้ามาได้ตั้งแต่เทนนิสยุคใหม่ โอเพ่นเอรา ปี 1968 แถมยังประเดิมสนามในเกมแรกด้วยการเอาชนะนักเทนนิสที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมไปแล้ว 4 รายการ ซึ่ง 2 รายการนั้นเป็นการคว้าแชมป์ที่วิมเบิลดัน นับตั้งแต่วันที่ คอรี กอฟฟ์ ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ 

 

ชัยชนะของกอฟฟ์ ส่งผลให้นักวิเคราะห์เทนนิสและอดีตตำนานของวงการต่างก็เชื่อว่า กอฟฟ์มีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นไปสู่นักเทนนิสหญิงมือหนึ่งของโลกได้ด้วยอายุที่ยังไม่ถึง 20 ปี และสำหรับใครที่ติดตามวงการเทนนิสอย่างใกล้ชิดจะพบว่า ก่อนหน้านี้เธอเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามอง ตั้งแต่การคว้าแชมป์เฟรนช์โอเพ่นจูเนียร์เมื่อปี 2018

 

 

ซึ่งมาถึงวันนี้ กอฟฟ์กล่าวคำเดียวกับอาลีว่า “I want to be the greatest”

 

หลังจากที่เธอสามารถเอาชนะ วีนัส วิลเลียมส์ ไอดอลในวงการเทนนิสของเธอได้ ประโยคที่เธอพูดก็อาจจะไม่ห่างไกลความจริงนัก เพราะสำหรับเด็กวัย 15 ปี ส่วนใหญ่ที่อาจกำลังนั่งเรียนประวัติศาสตร์อยู่ในห้องเรียน ระหว่างนั้นกอฟฟ์ก็กำลังเดินหน้าไล่ล่าฝันและสร้างประวัติศาสตร์บนคอร์ดเทนนิสอยู่ในช่วงอายุเดียวกัน  

 

 

 

แต่กอฟฟ์ก็ไม่ใช่คนที่ทิ้งการเรียน เพราะคืนก่อนรอบควอลิฟายด์สู่วิมเบิลดันในปีนี้ กอฟฟ์ยังต้องไปสอบวิชาวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนในบ้านเกิดฟลอริดา ก่อนที่จะกลับมาเอาชนะ กรีต มินเนน จากเบลเยียม ไป 2 เซตรวด 6-1, 6-1 

 

บ้านกีฬาของกอฟฟ์ที่เกิดและโตมาในครอบครัวที่ช่วยส่งเสริมความมุ่งมั่นตั้งแต่เด็ก

 

 

ย้อนกลับไปที่บ้านของกอฟฟ์ เธอเกิดและโตมาในครอบครัวกีฬา คอร์รี พ่อของเธอ และอดีตนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยจอร์เจียสเตท ทำหน้าที่เป็นโค้ช ขณะที่แม่ แคนดี เป็นอดีตนักกรีฑาของมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา

 

“ผมสร้างความท้าทายให้เธอตั้งแต่ต้น บอกเธอว่า เธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ด้วยไม้เทนนิสของเธอ” คอร์รี ผู้เป็นพ่อ ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times 

 

“ตอนเราเด็กกว่านี้ ทุกอย่างง่ายกว่านี้ แต่ตอนที่ฉันมีอายุได้ 13 ปี เราจะเริ่มถกเถียงกัน เพราะพ่อจะเอาเรื่องเทนนิสกลับมาบ้านเสมอ และพ่อจะอยู่ใกล้ๆ ตลอด แต่มาถึงตอนนี้ เราเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว” คอรี กอฟฟ์ ให้สัมภาษณ์ถึงพ่อของเธอกับ Sun Sentinel เมื่อปี 2018 

 

ด้วยการเติบโตมากับกีฬาและครอบครัวนักกีฬา สิ่งหนึ่งที่คอรีเรียนรู้ได้อย่างดีเยี่ยมคือ ความมุ่งมั่น เธอยอมรับว่า เคยผ่านช่วงที่ถกเถียงกันจนมาถึงจุดที่เข้าใจตัวเองมากขึ้น 

 

“พ่อแม่ไม่เคยกดดันให้ชนะ แต่แรงกดดันส่วนใหญ่มาจากตัวฉันเอง เพราะฉันเกลียดที่จะแพ้มาก” คือความหมายที่เธอให้กับแรงกดดันที่เธอมีกับตัวเอง

 

แรงจูงใจที่สำคัญที่สุดของคอรีคือ รูปของนักเทนนิสคนหนึ่งที่ติดอยู่ในห้องนอน นั่นคือ เซเรนา วิลเลียมส์ ยอดนักเทนนิสระดับตำนาน

 

“การมีรูปเซเรนาในห้องนอน เป็นเหมือนกับเครื่องเตือนใจถึงเป้าหมายที่อยากจะไปและสิ่งที่ฉันอยากจะเป็น” คอรีให้สัมภาษณ์พร้อมกับชี้ไปที่รูปของเซเรนา 

 

กอฟฟ์ได้รับแรงบันดาลใจจากพี่น้องวิลเลียมส์ค่อนข้างมาก โดยนอกจากผลงานในสนามแล้ว ปาทริก มูราโตกลู โค้ชชาวฝรั่งเศสของกอฟฟ์ ยังทำงานร่วมกับเซเรนาอีกด้วย 

 

ส่วนทางฝั่งเทนนิสชายนั้น กอฟฟ์ยกให้ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เป็นแรงบันดาลใจ จากวันที่พวกเขาเคยพบกันที่ออสเตรเลียนโอเพ่นจูเนียร์ ที่เธอตกรอบแรก 

 

“ทั้ง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ เซเรนา วิลเลียมส์ เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการเล่นเทนนิส ย้อนกลับไปตอนที่แพ้รอบแรกในออสเตรเลีย โรเจอร์บอกกับฉันว่า ให้กลับไปซ้อมให้หนักต่อเนื่อง และสุดท้ายฉันก็ทำตามคำแนะนำเขา และได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างในครั้งต่อมา” 

 

เป้าหมายคือที่สุดของวงการ

 

 

สำหรับกอฟฟ์แล้ว นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เพราะเธอได้ยืนยันไว้อย่างชัดเจนว่า 

 

“ฉันเคยบอกแล้วว่า ต้องการเป็นที่สุดของวงการ ถ้าเกมนี้ฉันเข้ามาพร้อมกับคิดว่า ลองดูสิว่าจะเล่นได้สักกี่เกมกับวีนัส นั่นอาจจะทำให้ฉันไม่สามารถชนะได้ เป้าหมายของฉันชัดเจน คือการเล่นให้ดีที่สุด ความฝันคือชัยชนะ และสุดท้ายนั่นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น” 

 

แล้วเป้าหมายของทัวร์นาเมนต์วิมเบิลดันนี้ล่ะ? 

 

“เป้าหมายของฉันคือแชมป์”

 

แล้วเป้าหมายสำหรับกีฬาเทนนิสล่ะ? 

 

“To be the greatest” 

 

“พ่อบอกฉันตลอดว่า ฉันสามารถทำได้ตั้งแต่วัย 8 ขวบ แน่นอน คุณไม่มีวันเชื่อมั่นได้ 100% แต่คุณก็ต้องเริ่มพูดไว้ก่อน คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”  

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising