การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 25 (COP25) เปิดฉากวานนี้ (2 ธันวาคม) ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยมีผู้นำและผู้แทนจากหลายประเทศทั่วโลกรวมกว่า 29,000 คนเดินทางเข้าร่วมประชุม ซึ่งมีกำหนดจัดต่อเนื่องจนถึงวันที่ 13 ธันวาคม
ไฮไลต์สำคัญของการประชุม COP25 ที่มีคำขวัญประจำการประชุมว่า Time for Action หรือเวลาสำหรับดำเนินการ คือการหารือแนวทางดำเนินมาตรการต่างๆ ในกรอบความตกลงปารีสที่นานาประเทศได้ร่วมลงนามและให้สัตยาบันไว้อย่างจริงจัง ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญในปีหน้า ซึ่งนานาชาติต้องจัดส่งแผนดำเนินการด้านสภาพอากาศฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มเป้าหมายลดปริมาณการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจก โดยตลอด 12 เดือนจากนี้จะมีการเจรจาที่เข้มข้น ก่อนจะไปถึงการประชุม COP26 เพื่อหาข้อสรุปที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ ในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่จะถูกหยิบยกขึ้นหารือระหว่างการประชุมคือการสนับสนุนการเงินเพื่อดำเนินการรับมือภาวะสภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลก รวมถึงแผนดำเนินการเพื่อบรรลุ 3 เป้าหมายหลักในการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ได้แก่ ลดการแพร่กระจายของก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 45% ภายในปี 2030 และลดการแพร่กระจายลงจนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 รวมถึงคงระดับการเพิ่มของอุณหภูมิโลกไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียสภายในศตวรรษที่ 21 ที่จะสิ้นสุดในปี 2100 ซึ่งปัจจุบันนานาชาติยังไม่มีการดำเนินการที่เพียงพอ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
