เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เดือนเมษายน ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 95.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 96.3 ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยมีสาเหตุจากผู้ประกอบการได้เร่งการผลิตไปในช่วงเดือนก่อนหน้า เพื่อชดเชยการผลิตในเดือนเมษายนที่มีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อกำลังซื้อที่ลดลง โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งการส่งออกที่หดตัว อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของการค้าโลก โดยเฉพาะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
โดยดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ภาพรวมลดลงอยู่ที่ระดับ 101.9 จาก 104.2 เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ความผันผวนค่าเงินบาท และสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่กระทบการส่งออกของไทย นอกจากนี้ยังกังวลสถานการณ์ทางการเมือง ที่เอกชนต้องการเห็นความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อเร่งกำหนดนโยบายเศรษฐกิจทั้งด้านการค้าและการลงทุน
ทางด้าน เกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท. ได้กล่าวถึงประเด็นจากผลกระทบดังกล่าว จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนว่า
“สงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีนรอบนี้รุนแรงและเอาจริง ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา จึงได้ทำการศึกษา ติดตามถึงผลกระทบ โดยต้องดูแลสมาชิกใน 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ส.อ.ท. จึงขอเสนอให้ภาครัฐจัดตั้ง War Room ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อติดตามผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพื่อช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมอย่างเร่งด่วน”
อย่างไรก็ตาม ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยังได้เสริมว่า จากความกังวลต่อปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทางสภาอุตสาหกรรมฯ หวังให้มีการจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยและนักลงทุนต่างชาติ พร้อมกับมีการเสนอแนะต่อภาครัฐใน 2 ประเด็น ดังนี้
1. การสนับสนุนแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs รวมทั้งปรับหลักเกณฑ์ในการให้กู้เงินของธนาคารให้เหมาะสมและมีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs
2. การปรับลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตของหน่วยงานภาครัฐ โดยเร่งรัดโครงการ Regulatory Guillotine
ภาพ: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
