ยังไม่ทันที่เสียงคร่ำครวญของเหล่า ‘Swifties’ ในอาเซียนจะเงียบสงบดี Taylor Swift ศิลปินสาวอันดับหนึ่งของโลกคนปัจจุบันก็ประกาศข่าวดี (?) ต่อเนื่องทันที
ข่าวดีดังกล่าวคือการประกาศเพิ่มรอบการแสดงของ ‘The Eras Tour’ ทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุดของนักร้องสาววัย 33 ปีอีก 3 รอบ ในวันที่ 7, 8 และ 9 มีนาคม 2024 ทำให้ Taylor Swift จะเปิดการแสดงที่สิงคโปร์รวมกันถึง 6 รอบด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- The Taylor Swift Tour Effect บทเรียนด้านเศรษฐศาสตร์และความทุ่มเทของแฟนเพลงท่ามกลางราคาตั๋วที่พุ่งสูงขึ้น
- ชมคลิป: เศรษฐีจีนแห่ย้ายประเทศเข้าสิงคโปร์ หนุนค่าครองชีพพุ่งอันดับ 1 ของโลก | KEY MESSAGES #80
- แฟนๆ ในมาเลเซีย ไทย และฟิลิปปินส์ ตั้งคำถาม ‘สิงคโปร์’ มีดีอย่างไร ทำไม ‘Taylor Swift’ ถึงไปจัด The Eras Tour แห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เรื่องนี้ยิ่งทำให้คำถามของแฟนเพลง โดยเฉพาะในแถบประเทศอาเซียนยิ่งดังขึ้นไปอีก เพราะแฟนเพลงของเธอไม่ได้มีอยู่แค่ที่สิงคโปร์ แต่ยังมีอีกจำนวนมากมายมหาศาลในทุกประเทศของอาเซียน ทั้งไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ซึ่งหากมองในแง่ของจำนวนประชากรแล้วมีมากกว่าสิงคโปร์มากมายหลายเท่านัก
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือไม่ใช่เฉพาะ Taylor Swift ที่เลือกสิงคโปร์
Coldplay วงร็อกระดับต้นๆ ของโลกก็เลือกจัดการแสดงที่สิงคโปร์มากถึง 6 วันเช่นเดียวกันในเดือนมกราคม 2024
ขณะที่ทีมกีฬาระดับโลกอย่างลิเวอร์พูล รวมถึงบาเยิร์น มิวนิก, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, โรมา ต่างก็เลือกที่จะเดินทางมาทัวร์ที่ประเทศสิงคโปร์ในเทศกาลเกมลูกหนังช่วงเดือนหน้า ก่อนที่ฤดูกาลแข่งขันใหม่ 2023/24 จะเริ่มต้นขึ้น
อะไรที่ทำให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับทั้งศิลปิน นักร้อง และทีมกีฬาเหล่านี้?
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญอย่างแน่นอน…
Connecting the dot…
เหตุผลแรกที่ทำให้เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันว่าทำไม Taylor Swift, Coldplay หรือแม้แต่ทีมฟุตบอลอย่างลิเวอร์พูล เลือกที่จะเดินทางมาที่สิงคโปร์เป็นหลัก (จะมีก็แค่ Coldplay ที่เดินทางไปประเทศอื่นด้วย แต่ก็จัดแสดงที่สิงคโปร์มากที่สุดอยู่ดี) ไม่มีอะไรเข้าใจยาก
ภาพ: Roberto Panucci – Corbis / Corbis via Getty Images for ABA
‘ทำเล’ เป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งด้วยทำเลของสิงคโปร์ที่เสมือนปักหมุดอยู่ตรงกลางระหว่างประเทศอื่นๆ ในอาเซียน นั่นทำให้การเดินทางมาสิงคโปร์เป็นเรื่องที่สะดวกสำหรับแฟนบอลในภูมิภาคนี้
จากไทย? 2.20 ชั่วโมงเท่านั้น
จากอินโดนีเซีย? บินจากจาการ์ตา 1.40 ชั่วโมง
แล้วเวียดนาม? จากโฮจิมินห์ลงสนามบินชางงีแค่ 2.05 ชั่วโมง
เควิน วี (Kevin Wee) อาจารย์โรงเรียนการจัดการธุรกิจ Nanyang Polytechnic ให้ความเห็นกับ Channel News Asia เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ทำเลที่ดีที่สุดนั้นเป็นที่ดึงดูดใจสำหรับศิลปิน และจะเปลี่ยนเหล่าแฟนเพลงให้กลายเป็นนักท่องเที่ยว ทำให้พวกเขาสามารถที่จะหาความสุขอื่นๆ ได้นอกเหนือจากการไปดูคอนเสิร์ต
“การเชื่อมโยงที่ง่ายดายกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน หมายถึงแฟนๆ เหล่านี้สามารถเดินทางจากสิงคโปร์เพื่อมาชมคอนเสิร์ตและบินกลับบ้าน โดยที่มีอะไรมากไปกว่าแค่ความทรงจำจากคอนเสิร์ต”
ความได้เปรียบอีกประการสำหรับสิงคโปร์คือการที่พวกเขาเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพสูง ไม่ค่อยประสบปัญหาทางการเมืองหรือสังคมในประเทศมากนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย หรือไทย (Taylor Swift เคยยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตแค่ครั้งเดียว และเกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี 2014 จากเหตุรัฐประหาร)
นอกจากนี้สิงคโปร์เองเดิมมีภาพลักษณ์ของการเป็น ‘Night Life Capital’ หรือเมืองหลวงสำหรับคนกลางคืนของภูมิภาคอาเซียนอยู่แล้ว และตลอดมาก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ ให้เดินทางมาใช้จ่ายวันเวลาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ภาพลักษณ์ดังกล่าวทำให้บรรดาค่ายเพลง ศิลปินระดับโลก หรือทีมกีฬา ให้ความสนใจพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเดิมจากที่หากมาทัวร์เอเชียอาจจะไปที่ญี่ปุ่น หรือเลยไปออสเตรเลีย ตอนนี้หากคิดที่จะเจาะกลุ่มแฟนๆในอาเซียนก็ไม่ติดคิดอะไรมาก
จิ้มไปที่สิงคโปร์ก่อน เพราะแฟนๆ ที่มีกำลังพร้อมจะเดินทางตามมาแน่นอน
โดยที่แฟนๆ เหล่านั้นยังจะแปรเปลี่ยนเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายทั้งวัน เวลา และเงินทองไปกับการกิน ดื่ม ช้อปปิ้งในสิงคโปร์ ตามความเห็นของ ดร. ไมเคิล เชียม (Michael Chiam) อาจารย์จาก Ngee Ann Polytechnic
ประสบการณ์ที่ดีมีชัยไปเกินครึ่ง
การเดินทางไม่ได้เป็นความได้เปรียบเดียวของสิงคโปร์ พวกเขายังมีสถานที่พร้อมอย่างมากสำหรับการจัดงานอะไรก็ตาม
สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์เป็นสนามกีฬาที่ได้มาตรฐานระดับโลกที่สามารถรองรับการจัดงานใหญ่ได้สบายๆ รวมถึงการจัดคอนเสิร์ตใน ‘มาตรฐานระดับโลก’ ด้วย
ดังนั้นนอกจากจะใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลพรีซีซันในช่วงเดือนกรกฎาคมต่อต้นเดือนสิงหาคม (ซึ่งผู้เขียนก็จะเดินทางไปชมลิเวอร์พูลด้วย!) ที่มีทีมฟุตบอลระดับชั้นนำอย่างลิเวอร์พูล, บาเยิร์น มิวนิก, เลสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และโรมา เดินทางมา สนามกีฬาแห่งชาติซึ่งจุคนได้ถึง 55,000 คน พร้อมสำหรับการจัดคอนเสิร์ตให้กับศิลปินระดับโลกที่มีโชว์สุดตระการตาอย่าง Coldplay หรือ Taylor Swift ได้แบบสบายๆ
ขณะที่หากเป็นงานสเกลเล็กลงไป หรืองานที่ต้องการความอลังการก็อาจจะเลือกสถานที่อื่นอย่าง Esplanade หรือ Victoria Memorial Hall ที่พร้อมสำหรับศิลปินจากเกาหลี ญี่ปุ่น หรือจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่เดินทางมาแสดงที่สิงคโปร์กันตลอดทั้งปี
อีกเหตุผลคือเรื่องมาตรการเกี่ยวกับโควิดที่สิงคโปร์ค่อนข้างยืดหยุ่น ทำให้ศิลปินหรือทีมกีฬาพิจารณาพวกเขาเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับการเดินทางมาพบปะแฟนๆ ในอาเซียน ซึ่งแฟนๆ เองก็ชอบกับการเดินทางมาชมคอนเสิร์ตหรือดูฟุตบอลที่สิงคโปร์เช่นกัน เพราะนอกจากการเดินทางเข้าประเทศที่สะดวกสบาย ไม่เหนื่อยยาก การเดินทางภายในสิงคโปร์เองก็อยู่ในระดับดีเยี่ยม ทั้งการเดินทางจากสนามบินเข้าใจกลางเมือง หรือการเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน เช่น สนามกีฬาแห่งชาติก็มีรถใต้ดินเข้าถึงชนิดที่เดินออกจากสถานีก็มองเห็นสนามตรงหน้าแล้ว (ลองนึกถึงการเดินทางไปราชมังคลากีฬาสถานสิ…)
ความสะดวกสบายต่างๆ ยังมาพร้อมกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยที่ดี การเดินทางมาสิงคโปร์แทบไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาวุ่นวาย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลดีๆ ที่ทำให้สิงคโปร์เริ่มกลายเป็น ‘ฮับ’ กลางใจทุกคน
‘ประสบการณ์’ ที่ได้รับนั้นคุ้มค่ามากพอที่ทำให้ต่อให้ต้องเดินทางข้ามประเทศมาดู เสียเงินเพิ่ม แต่ก็เป็น ‘ช่วงเวลาดีๆ’
และยังมีคนที่พร้อมจะจ่ายมากกว่าอีกหลายเท่าเพื่อรับ ‘ประสบการณ์ที่แสนพิเศษสุด’ เหมือนที่ Marina Bay Sands (MBS) เตรียมที่จะจัดแพ็กเกจสุดอลังการสำหรับแฟนเพลงของ Taylor Swift ในระดับ ‘ครั้งหนึ่งในชีวิต’ (Once in a lifetime) ที่นอกจากประสบการณ์ในคอนเสิร์ตแล้วยังรวมถึงประสบการณ์ที่พักและอื่นๆ ด้วย
ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
อย่างไรก็ดี ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นได้หากไม่มีคนทำงานที่พยายามเชื่อมโยงทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง
หน่วยงานที่สมควรได้รับคำชมจากชาวสิงคโปร์คือ Singapore Tourism Board (STB) หรือคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ที่ใช้กำลังทั้งภายนอกและภายในอย่างมหาศาลเพื่อผลักดันให้สิงคโปร์เป็นฮับให้ได้
โดยที่ STB มองว่าอุตสาหกรรมดนตรีและความบันเทิง (กีฬา) นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ MICE (Meetings, Incentives, Conferences และ Exibitions) จึงพยายามที่จะสนับสนุนภาคส่วนนี้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิด เพื่อเร่งฟื้นฟูภาพของสิงคโปร์ในการเป็นฮับสำหรับดนตรีและความบันเทิงระดับโลกในภูมิภาคอาเซียน จึงเป็นความพยายามของ STB ที่มองเห็นศักยภาพและโอกาสของสิงคโปร์ที่สามารถเป็นศูนย์กลางได้ ซึ่งความร่วมมือที่ดีต่อกันทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี
ภาพ: Kevin Mazur / TAS23 / Getty Images for TAS Rights Management
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจคือการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมดนตรีต่างเปิดสำนักงานหรือร้านค้าที่สิงคโปร์ เช่น Universal Music Group ที่มีสำนักงานใหญ่ของอาเซียนอยู่ที่สิงคโปร์ ขณะที่ STB ยังได้ร่วมมือกับ Charlie Puth ศิลปินระดับโลก และ Warner Music ในการช่วยโปรโมตสิงคโปร์ในฐานะจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดสำหรับวงการดนตรี
STB ยังได้ร่วมกับ Jackson Wang หรือ ‘พี่แจ็ค’ ในการถ่ายทำ Vlog ท่องเที่ยวสิงคโปร์เพื่อเป็นการโปรโมตประเทศด้วย
ขณะที่วงการกีฬานั้นปีนี้ก็เป็นปีที่ 2 แล้วที่มีสโมสรฟุตบอลเดินทางมาทัวร์อย่างต่อเนื่องในอีเวนต์ Singapore Festival of Football โดยผู้จัดคือ CDG Zig ที่มองเห็นศักยภาพของสิงคโปร์จากกระแสแฟนฟุตบอลหลั่งไหลเดินทางจากทั่วเอเชียเมื่อปีที่แล้ว
โดยที่ทีมแม่เหล็กอย่างลิเวอร์พูล ซึ่งปกติแล้วผู้จัดการทีมชาวเยอรมันอย่าง เจอร์เกน คล็อปป์ ไม่ชื่นชอบในการพาทีมออกมาทัวร์ไกลถึงเอเชีย กลับเห็นด้วยกับการให้เดินทางมาทัวร์ที่สิงคโปร์อีกครั้ง คราวนี้ขออยู่นานถึง 1 สัปดาห์เต็ม ซึ่งนอกจากจะได้ลงแข่ง 2 นัดแล้ว ยังได้โอกาสในการเตรียมทีมแบบเต็มที่ ไม่ต้องรีบไปรีบกลับแบบปีที่แล้วด้วย
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของสิงคโปร์ที่สามารถรองรับทีมกีฬาระดับโลกได้ดีเยี่ยมไม่แพ้คนในโลกดนตรีเช่นกัน
ผลตอบรับที่พวกเขาจะได้?
ติ๊งต่างเฉพาะคอนเสิร์ต Taylor Swift ทั้ง 6 รอบในเดือนมีนาคม 2024 มีการประเมินกันว่าจะมีสาวก Swifties เดินทางมาสิงคโปร์มากถึง 200,000 คนในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งส่งผลดีมากมายมหาศาลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ
ขณะที่การมาของ Coldplay ในเดือนมกราคม 2024 ทำให้ยอดการค้นหาที่พักในแพลตฟอร์มท่องเที่ยว Agoda เพิ่มขึ้นถึง 8.7 เท่าเลยทีเดียว โดยกลุ่มคนที่ค้นหาที่พักนั้นไม่ได้มาจากแค่อินโดนีเซีย หรือมาเลเซีย แต่รวมถึงไทย ฮ่องกง ไปจนถึงสหรัฐฯ หรือออสเตรเลียเลยทีเดียว
เชื่อว่าน่าจะพอมองภาพได้ชัดขึ้นว่าสิงคโปร์มีดีอย่างไร ทำไมใครๆ (ศิลปิน/ทีมกีฬา) ถึงอยากมาจัง!
ภาพปก: Kevin Mazur / TAS23 / Getty Images for TAS Rights Management
อ้างอิง:
