วันนี้ (18 สิงหาคม) เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองออกจดหมายเปิดผนึกถึง ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เรื่องขอให้ปกป้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความเห็นของอาจารย์ นิสิต นักศึกษา และบุคลากร โดยมีเนื้อหาระบุว่า
หลังจากที่เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ได้ออกแถลงการณ์ในวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนและปกป้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน และมีอาจารย์และนักวิชาการทั่วประเทศร่วมลงชื่อเบื้องต้นจำนวน 353 คนนั้น
คนส. ได้รับแจ้งจากเครือข่ายคณาจารย์จากหลายมหาวิทยาลัยและจาก ‘ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน’ ว่ามีอาจารย์หลายท่านถูกผู้บริหารข่มขู่คุกคามไม่ให้ร่วมลงชื่อ และกระทั่งกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งบริหาร คนส. ขอให้กำลังใจและยืนเคียงข้างคณาจารย์ผู้แสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมในบรรยากาศที่หดหู่เช่นนี้ พร้อมทั้งขอประณามการกระทำของผู้บริหารมหาวิทยาลัยเหล่านั้น
การกดดันหรือกระทั่งข่มขู่คุกคามคณาจารย์ดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อเท็จจริงที่น่าตระหนกและน่าละอายอย่างยิ่งว่า ตาม ‘ดัชนีเสรีภาพทางวิชาการ (Academic Freedom Index)’ ในปี 2563 มหาวิทยาลัยไทยมีสถานะย่ำแย่อยู่ในกลุ่มที่ตกต่ำที่สุดในโลกร่วมกับมหาวิทยาลัยในอีก 15 ประเทศ เช่น คิวบา ซีเรีย ซิมบับเว และเกาหลีเหนือ ‘ดัชนีเสรีภาพทางวิชาการ’ นี้ไม่ได้วัดเฉพาะการผลิตผลงานวิชาการ หากแต่ยังครอบคลุมเสรีภาพในการแสดงออกทางวัฒนธรรมและการเมืองด้วย (https://www.insidehighered.com/news/2020/03/30/new-index-rates-countries-degree-freedom-scholars)
ทว่า ต่อมาวันที่ 14 สิงหาคม 2563 เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กลับเรียกผู้บริหารมหาวิทยาลัยเข้าพบภายหลังจากเข้ารับตำแหน่ง 1 สัปดาห์ เพื่อกำชับให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเข้มงวดกับการชุมนุมของนิสิต นักศึกษา รวมทั้งกำหนดว่าอาจารย์ควรอบรมสั่งสอนนิสิต นักศึกษา อย่างไร ซึ่งล้วนแล้วแต่ขัดกับหลักสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นในระบอบประชาธิปไตย รวมถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพและการเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อหาคำตอบให้กับสังคม
ในห้วงเวลาที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา กำลังตื่นตัวในการแสดงความเห็นและเสนอแนะทางออกให้กับสังคม และเพื่อยกระดับสถานะของมหาวิทยาลัยไทยให้ทัดเทียมมหาวิทยาลัยโลก คนส. จึงเรียกร้องต่อ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดังนี้
- ต้องให้การรับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของอาจารย์ นิสิต นักศึกษา และบุคลากร ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย และส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกอย่างมีเหตุมีผล ตามครรลองของกฎหมาย พันธกิจของมหาวิทยาลัยไม่ใช่เพียงการผลิตบัณฑิตและผลงานวิชาการ หากแต่ยังต้องปกป้องและส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองและวัฒนธรรม อันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและเป็นรากฐานของสังคมประชาธิปไตย
- ต้องให้หลักประกันว่าอาจารย์และคณะหรือวิทยาลัยต่างๆ จะมีอิสระในการกำหนดเนื้อหาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนดังที่เป็นมา กระทรวง อว. จะไม่ลิดรอนอิสระทางวิชาการด้วยการกดดันหรือสอดใส่อคติหรือค่านิยมทางการเมืองเฉพาะกลุ่ม เฉพาะตน เข้ามาเผยแพร่ในหลักสูตรต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ตามหลักสากลของการให้อิสระทางวิชาการของมหาวิทยาลัย
- ต้องให้ความเชื่อมั่นต่อประชาคมวิชาการและประชาชนว่าจะยึดมั่นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะแม้ท่านได้แสดงท่าทีต่อสาธารณะว่าได้หมดความนิยมต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแล้ว และหันไปให้ความนิยมต่อผู้นำเผด็จการมากกว่า ทว่า คนส. และประชาคมวิชาการก็ยังหวังว่าท่านจะไม่นำทัศนะทางการเมืองส่วนตัวนี้ไปลิดรอนเสรีภาพการแสดงออกของอาจารย์ นิสิต นักศึกษา และบุคลากรในมหาวิทยาลัย
อนึ่ง ด้วยความที่ท่านเคยได้รับการบ่มเพาะจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก อีกทั้งยังเคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาก่อน คนส. เชื่อว่าท่านย่อมตระหนักดีว่า เสรีภาพการแสดงออกบนข้อเท็จจริงอย่างมีเหตุมีผลภายใต้กรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ คือรากฐานสำคัญของความก้าวหน้าทางวิชาการและสันติธรรมของสังคม
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล