×

การล่มสลายของ LUNA-UST อาจเป็นระเบิดเวลาในตลาดคริปโต จับตาใครจะเป็นโดมิโนตัวสุดท้าย

08.07.2022
  • LOADING...
LUNA-UST

ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มมีทิศทางขาลงนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2022 ความผันผวนของตลาดทำให้นักเทรดพยายามทำกำไรจากการ Short มากขึ้น จนนำไปสู่การหลุดตรึงมูลค่า (Peg) ของเหรียญ LUNA-UST ซึ่งทำให้เกิดการล่มสลายของ Terra ในที่สุด เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบลุกลามไปทั่วอุตสาหกรรมคริปโต ทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่แย่ลง และโอกาสล้มละลายของบริษัทคริปโตที่ใช้ Leverage มากเกินไป ผลกระทบที่เห็นอาจเป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งหรือไม่ และผลกระทบโดมิโนจะสิ้นสุดที่ใด

 

เมื่อตลาดคริปโตซื้อขายในตลาดหมี ความผันผวนในตลาดก็เริ่มสูงขึ้น บริษัทที่มีการใช้ Leverage สูงมักจะประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากมูลค่าหลักประกันของพวกเขาลดลง นำไปสู่การล้างพอร์ต (Liquidation) และแน่นอนว่าเมื่อบริษัทหนึ่งประสบปัญหา โดยเฉพาะการผิดนัดชำระหนี้ สิ่งนี้ได้ส่งผลกระทบกระจายไปทั่วทั้งอุตสาหกรรม เมื่อนักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกและขาดความเชื่อมั่น ผู้ใช้ก็รีบแห่ไปถอนเงิน ทำให้ตอกย้ำปัญหาสภาพคล่องยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้เว็บเทรดคริปโตหลายแห่งจึงต้องใช้มาตรการที่รุนแรง เช่น การระงับถอนเงินและหยุดการทำธุรกรรม

 

ผลกระทบโดมิโนจะสิ้นสุดที่ใด

แม้เราจะได้เห็นบริษัทคริปโตหลายแห่งประกาศยื่นฟ้องล้มละลาย แต่ก็ยากที่จะมองว่านั่นจะเป็นบริษัทสุดท้าย เพราะดูเหมือนว่าน่าจะมีบริษัทอื่นที่ได้รับผลกระทบต่อกันเป็นทอดๆ

 

ย้อนกลับไปตั้งแต่การหลุด Peg ของเหรียญ UST เมื่อผู้โจมตีกลุ่มหนึ่งได้เทขาย UST จนทำให้เกิด Panic Sell ในตลาดตามมา ทั้งเหรียญ LUNA และ UST ของเครือข่าย LUNA ดิ่งลงเหวจนแทบไร้มูลค่าเมื่อเดือนพฤษภาคม ไม่ใช่เพียงนักลงทุนรายย่อยที่ขาดทุนอย่างหนัก แต่เหล่าวาฬและบริษัทคริปโตที่ลงทุนใน Terra ก็ขาดทุนมหาศาลด้วยเช่นกัน

 

เริ่มตั้งแต่ Three Arrows Capital หรือ 3AC กองทุนเฮดจ์ฟันด์ด้านคริปโตของสิงคโปร์ ได้ถือสถานะเหรียญ UST ขนาดใหญ่มากอยู่ในโปรโตคอล Anchor ของเครือข่าย Terra ซึ่งหลังจากที่ราคาเหรียญ UST หลุดการตรึงมูลค่า (Peg) บริษัทก็ขาดทุนมหาศาลถึง 200 ล้านดอลลาร์ กองทุน 3AC ยังได้รับเงินกู้จากผู้ปล่อยกู้หลายราย รวมถึง Celsius, FTX, BlockFi, BitMEX และ Nexo

 

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ทาง Voyager Digital เปิดเผยว่า 3AC ผิดนัดการชำระหนี้ ซึ่งประกอบด้วย Bitcoin จำนวน 15,250 BTC และ USD Coin อีกจำนวน 350 ล้าน USDC โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้บริษัทประสบปัญหาทางการเงินอย่างร้ายแรง และต้องยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา

 

โบรกเกอร์คริปโตอย่าง Genesis ก็ยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม) ว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของกองทุน Three Arrows Capital เนื่องจาก 3AC ไม่สามารถหาเงินมาชำระ Margin Call ให้กับทาง Genesis ได้

 

Mark Connors ผู้บริหารฝ่ายวิจัยของ 3iQ Digital Asset ให้สัมภาษณ์ว่า “ผู้เล่นในอุตสาหกรรมคริปโตจำนวนมากกำลังจะยอมแพ้” ซึ่งสิ่งเหล่านี้มาจากข้อบกพร่องของรูปแบบธุรกิจของบริษัทต่างๆ ที่พยายามใช้ประโยชน์จาก Leverage ความไม่สอดคล้องของสินทรัพย์และหนี้สิน ทำให้บริษัทจำนวนมากมีปัญหา

 

Uprise บริษัทให้บริการคริปโตแบบรวมศูนย์จากเกาหลีใต้เป็นรายล่าสุดที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ Terra บริษัทได้ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยในการซื้อขาย ซึ่งระบบได้อ่านข้อมูลผิดพลาด ระหว่างที่ LUNC (ชื่อเดิมคือ LUNA) ร่วงอย่างรวดเร็วจาก 60 ดอลลาร์ เหลือเศษเสี้ยวเซนต์ ระบบให้เปิด Short เหรียญ LUNC แต่ถูกล้างพอร์ตระหว่างที่เหรียญดีดตัวขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าขาดทุนไป 20 ล้านดอลลาร์ และบริษัทขาดทุนอีก 3 ล้านดอลลาร์เอง โดยรวมแล้ว Uprise สูญเสียทรัพย์สินประมาณ 99%

 

ไม่รู้ว่าผลกระทบโดมิโนจะสิ้นสุดที่ตรงไหน แม้ว่าเราจะได้เห็นข่าวดีจากการที่ Celsius จ่ายหนี้ก้อนใหญ่ให้กับ Maker ได้ และทำให้จุดล้างพอร์ตของ Celsius อยู่ที่ 2,722 ดอลลาร์ แต่แพลตฟอร์มก็ยังคงระงับการฝากถอนอยู่

 

นอกจากนี้บริษัทที่เปิดเผยว่าได้รับผลกระทบอาจเป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งหรือไม่ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising