Coinbase แพลตฟอร์มเทรดคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เตรียมขยายธุรกิจออกนอกประเทศ โดยมองว่ามีโอกาสเจอความเสี่ยงด้านกำกับดูแลต่อธุรกิจการเงินภายในประเทศที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากการล้มลงของธนาคารชั้นนำหลายแห่ง
โดย Bloomberg รายงานว่า Coinbase US ได้ติดต่อกับลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงินหลายราย สำหรับแผนการขยายธุรกิจเทรดคริปโตออกนอกประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เอลซัลวาดอร์เอาจริง! เตรียมออก ‘โทเคน Volcano’ ปีนี้ และรุกสร้าง Bitcoin City
- สัญญาณจาก On-Chain ชี้ นักเทรด Bitcoin ระยะสั้น เริ่มมีกำไรแล้ว แนะจับตาแรงขายต่อจากนี้
- จับตา! วงการคริปโตใช้ ‘พลังงานนิวเคลียร์’ ขุด Bitcoin คาดเปิดตัวในสหรัฐฯ ไตรมาส 1 ปีนี้
ทั้งนี้ Coinbase ก็กำลังอยู่ระหว่างการหาสำนักงานแห่งใหม่สำหรับ Coinbase Global ในระหว่างที่กำลังเจรจากับพาร์ตเนอร์ที่เป็นวาณิชธนกิจ และ Market Maker อยู่ในขณะนี้
ซึ่งโอกาสสำหรับการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศของ Coinbase เกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารชั้นนำของโลกในสหรัฐฯ ล้มลง จนทำให้ฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะเข้มงวดกับธุรกิจด้านการเงินมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Kraken แพลตฟอร์มเทรดคริปโตชั้นนำของโลกก็เพิ่งถูก ก.ล.ต.สหรัฐฯ สั่งระงับการเสนอบริการ ‘Staking’ ให้แก่ลูกค้า พร้อมโดนค่าปรับมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ (ราว 1 พันล้านบาท) จากการไม่จดทะเบียนบริการ ‘Staking-as-a-Service Program’ ในฐานะหลักทรัพย์
รวมไปถึงการที่ฝ่ายกำกับดูแลสหรัฐฯ สั่งระงับ Paxos จากการออกเหรียญ Stablecoin ‘BUSD’ ให้แก่ Binance เนื่องจากมองว่าเหรียญ ‘BUSD’ เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ลงทะเบียน
จนทำให้ ไบรอัน อาร์มสตรอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Coinbase ออกมาเน้นย้ำว่าการออกกฎระเบียบที่ไม่ชัดเจนของสหรัฐฯ ต่อคริปโตอาจนำไปสู่การขับเคลื่อนวงการคริปโตนอกสหรัฐฯ ดังเช่นที่เกิดกับวงการ 5G หรือเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น
เนื่องจากดินแดนที่เป็นศูนย์การเงินของโลกอย่างฮ่องกง สิงคโปร์ ลอนดอน และล่าสุดอย่างสหภาพยุโรป ก็ได้ออกกฎหมายที่รับรองคริปโตอย่างเป็นทางการ และมีความชัดเจนกันเป็นอย่างมากแล้ว
อ้างอิง: