วันนี้ (8 เมษายน) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า หากพรรคใดไม่เห็นด้วยจะขับพ้นคณะรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน หากออกจากปากนายกรัฐมนตรีถึงจะโอเค เพราะเป็นบุคคลที่มีอำนาจ ส่วนที่ทักษิณมีความเห็นก็เป็นความเห็นของทักษิณ สำหรับการพูดคุยของรัฐบาล ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายของประเทศและของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดประโยชน์กับประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลรับฟังข้อคัดค้าน หรือแถลงการณ์ต่างๆ ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักทั้งหมดว่า เสียงเป็นอย่างไร โดยที่ทุกอย่างยังต้องเดินหน้า ไปพร้อมกับรับฟังความคิดเห็น หากรับฟังแล้วมีน้ำหนักเพียงพอ หรือมีปัญหาเยอะ ก็สามารถจบกระบวนการเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ระหว่างนี้มีเสียงสนับสนุน และเสียงคัดค้าน ก็ต้องเดินหน้าไปก่อน
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นตรงกัน ในการโหวตวาระแรกด้วยหรือไม่ ภูมิธรรมระบุว่า เท่าที่ได้รับฟังในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยกัน ก็เห็นตรงกันไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งปล่อยให้เป็นขบวนการของสภา ซึ่งยืนยันได้ว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยหากเข้าไปดูที่เนื้อหา เช่น ที่กำหนดว่าบุคคลที่จะเข้าไปเล่นคาสิโนต้องมีเงินฝากในบัญชีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
หากคนเหล่านี้เข้ามาเล่นคาสิโนใน Entertainment Complex หรือไปเล่นข้างนอก ก็จะมีความเหมือนๆ กัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการนำของใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางภาษี เพราะเงินใต้ดินที่อยู่นอกระบบมีจำนวนมาก ก็ต้องหยิบขึ้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ และเงินเหล่านี้ไม่ใช่ว่าเป็นเมืองพุทธและจะเป็นเมืองบาป เพราะความจริงไม่ได้สนับสนุนเห็นด้วย ซึ่งหากไปดูตามชนบท หวย 2 ตัว 3 ตัว ก็ระบาดเต็มไปหมด ซึ่งต้องทำให้ชัดเจน โดยมีการกำหนดกฎเกณฑ์ ไม่ให้บุคคลที่ไม่มีอำนาจเกี่ยวข้องเข้าไปใช้
ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า วันนี้เกิดความท้าทายใหม่ สหรัฐอเมริกาขึ้นภาษีนำเข้า ส่งผลกระทบต่อการค้าโลกทั้งหมด และประเทศไทยก็เป็นประเทศที่ประสบปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะเพิ่มวงเงินหมุนเข้าไปในระบบ ซึ่งคนมองไม่ได้มองที่เศรษฐกิจ แต่ไปมองวิกฤตทางสังคม ซึ่งรัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว
ส่วนที่ฝ่ายต่อต้านพยายามชูประเด็นคาสิโน ที่มีอยู่ไม่เกิน 10% แต่อีก 90% ไม่ถูกพูดถึง รัฐบาลจะเร่งประชาสัมพันธ์อย่างไร ภูมิธรรม ระบุว่า ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องประชาสัมพันธ์ เพราะ 90% เป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็น Man Made Destination หรือการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่
หากไปดูตัวอย่างที่ต่างประเทศ ก็จะเห็นว่า จะมีคนเข้าไปใช้ชีวิต หรือรับประทานอาหาร มาเล่นสวนสนุก แต่คาสิโน เป็นของกลุ่มบุคคลนิดเดียว ที่มีอยู่ 10 % ซึ่งหากนักเล่นเหล่านี้อยากเข้ามา ประเทศก็จะได้ภาษีจาก บุคคลเหล่านั้น พร้อมเชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อวิกฤตสังคมมากเท่าไหร่ เพราะไม่ได้มีโอกาสง่ายๆ ที่จะเข้าไป จากฐานที่กำหนดต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้าน จึงเชื่อว่า ไม่น่ากังวล
ประชาชาติ ทำความเข้าใจฐานเสียงมุสลิมได้
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาชาติว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาซึ่งอยู่ในข้อ 7 เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ต่อยอดจากมาตรการฟรีวีซ่า เพื่อให้เกิดสถานบันเทิงครบวงจร และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ให้มีการจับจ่ายใช้เงิน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจมหาศาล สิ่งที่รัฐบาลเสนอเข้ามา มี 3 วาระ วาระแรก เราจะพิจารณาเฉพาะหลักการ คือจะให้มีกฎหมายสถานบันเทิงฯ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องปฏิบัติตามนโยบายแถลงต่อสภา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ในส่วนของ สส. มีหน้าที่พิจารณากฎหมาย และสามารถแก้ไขได้หมด ไม่ว่าจะตัดหรือจะเพิ่ม แต่ที่แก้ไม่ได้อย่างเดียวคือเรื่องหลักการ และอยากให้ไว้ใจสภา เพราะกฎหมายที่ผ่านสภาน่าจะดีกว่ากฎหมายที่ผ่านการยึดอำนาจ เพราะไม่ได้ฟังเสียงใครเลย แต่กฎหมายนี้ฟังเสียงประชาชน อีกทั้งไม่ใช่เป็นเรื่องศาสนา แต่เป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่ง สส.ทุกคนมีอิสระ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าจะให้ สส. ประชาชาติ ฟรีโหวตใช่หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า สส. ก็ต้องไปพิจารณา อีกทั้งเป็นเพียงขั้นตอนรับหลักการ แม้จะมีเรื่องการพนัน แต่เราก็มีการกำหนดเงื่อนไขคือ ต้องมีเงินฝาก 50 ล้านบาท ซึ่งตรวจสอบแล้ว คนไทยมีเงินฝากจำนวนนี้ประมาณ 26,000 คน ดังนั้นเราเปิดให้ต่างชาติเข้า
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค ทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมแล้วหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ทุกคนมีอิสระ เราเข้าใจในเรื่องศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยที่อยู่ในคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งเรามีกฎหมายในลักษณะนี้ก็อยากให้ทำความเข้าใจ ยืนยันว่ารับฟังความเห็นของทุกคน แต่เรามีสภาซึ่งก็อาจจะต้องตั้งคณะกรรมาธิการ แม้จะแก้หลักการไม่ได้ แต่อาจจะมีกฎหมายเรื่องการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงฯ ส่วนเรื่องเหตุผลแต่ละรายมาตรา สามารถปรับแก้ได้ ส่วนจะรับหรือไม่ให้ดูวาระที่ 3
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ยอมรับกับผลที่จะตามมาหากเห็นด้วยกับรัฐบาล พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมายที่คุ้มครองปกป้องประชาชน และทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ซึ่งกฎหมายนี้ก็ผ่านการรับฟังความเห็นประชาชนมา 4 รอบ โดยวันพรุ่งนี้ก็ต้องมีการพูดคุยในสภา
ส่วนกรณีทักษิณขู่ขับพรรคร่วมออกจากรัฐบาล หากไม่เห็นด้วยต่อร่างกฎหมายดังกล่าว พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ทางเลขาธิการพรรคเพื่อไทยกำลังหาตัวคนที่ปล่อยข่าว เชื่อว่าทักษิณไม่มีความคิดอย่างนี้ เราต้องมีความเข้าใจ เรายืนอยู่บนระบอบประชาธิปไตย สังคมก็เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อสภาว่าจะมี Entertainment Complex ซึ่งวันนั้นไม่มีใครค้าน และวันนี้กฎหมายกำลังเข้าสู่สภา ซึ่งเป็นการรับหลักการ ส่วนจะมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ก็สามารถแก้ไขได้
รวมไทยสร้างชาติขอหารือพรรคก่อน
ด้าน เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งยิ้มแทนคำตอบ หลังถูกถามถึงกระแสข่าว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากไม่ลงมติเห็นชอบต่อร่างพระราชบัญญัติประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจรจะถูกปรับออกจากรัฐบาล กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า เดี๋ยวจะมีการประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอหารือในที่ประชุมพรรคก่อน
จุดยืนประชาธิปัตย์ หารือพรุ่งนี้
เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 เมษายน) จะมีการประชุม สส. พรรคประชาธิปัตย์ในช่วงเช้า ก่อนที่จะมีการเริ่มประชุมสภาเพื่อหารือและกำหนดท่าทีของพรรค แต่ยืนยันไม่มีการสั่งจากใครให้ลงมติอย่างที่เป็นข่าว และข่าวที่ออกมาเป็นข่าวเท็จ
ส่วนการโหวตหรือไม่โหวตร่างกฎหมายดังกล่าว จะเป็นเงื่อนไขในการปรับเก้าอี้คณะรัฐมนตรีหรือไม่ เฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่เกี่ยว คิดกันไปเอง ไม่เคยมีใครขู่ และตนก็ไม่ให้ใครมาขู่อยู่แล้ว วันนี้ตนอยากให้ข้อเท็จจริง วันนี้ให้แต่ละพรรคใช้ดุลพินิจเอา ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นการพูดคุยกันในพรรค พรรคเป็นองค์กร มีระเบียบมีระบบอยู่แล้ว ขอให้รอผลวันพรุ่งนี้
ส่วนมีความกังวลกระแสคัดค้านจากหลายฝ่ายหรือไม่ เฉลิมชัยกล่าวว่า เราก็ฟังทุกฝ่าย แต่วันหนึ่งก็ต้องตัดสินใจ ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นธรรมชาติของประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครจับจ้องเพราะเป็นพรรคเล็ก
กล้าธรรม พร้อมโหวตตามมติวิปรัฐบาล
ศ. ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวยืนยันกรณีกระแสข่าว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำชับให้พรรคร่วมรัฐบาล เห็นชอบในวาระรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หากไม่สนับสนุนจะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า ตนไม่ยังได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว แต่วานนี้ (7 เมษายน) ได้พูดคุยกับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถึงประเด็นดังกล่าวว่าไม่ใช่ความเห็นของทักษิณ แต่เป็นข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งว่าให้ทำแบบนี้
ส่วนทิศทางของพรรคร่วมในการโหวตร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ วันพรุ่งนี้ (9 เมษายน) จะเป็นเช่น ศ. ดร.นฤมล กล่าวว่า เมื่อคณะรัฐมนตรี ครม. มีมติเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว ก็หมายความว่าเราพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดเห็นชอบให้เอาร่างกฎหมายนี้เข้าไปพิจารณาในสภา ส่วนขั้นตอนต่อไปก็เป็นหน้าที่ของสภาพิจารณาเพราะนี่เป็นเพียงวาระหนึ่ง จากนั้นต้องไปปรับให้ถูกต้องตามความต้องการของผู้แทนทั้งหลายซึ่งเป็นเสียงที่มาจากประชาชน ส่วนท้ายที่สุดจะเป็นเช่นไรก็ต้องไปรอดูขั้นตอนในสภาต่อไป พร้อมยืนยันว่าหากมีมติวิปรัฐบาลเป็นเช่นไรก็ยืนยันไปตามนั้น
สมศักดิ์เชื่อ ผ่านไปได้ด้วยดี
ที่ทำเนียบรัฐบาล สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ร่างที่จะเข้าสภายังเป็นเพียงวาระแรก ซึ่งคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ส่วนที่ยังมีคนไม่เห็นด้วย หากดูรายละเอียดในวาระสองทุกพรรคยังสามารถพูดคุยปรับปรุงแนวทางต่างๆ ได้ ซึ่งคาสิโนถือเป็นเรื่องเล็กมากในร่างกฎหมายฉบับนี้ เป้าหมายหลักเราต้องการเอาการท่องเที่ยวเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นแม่เหล็กตัวหนึ่งที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว
ส่วนกรณีที่แพทย์ออกมาแสดงความเห็นคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์นั้น สมศักดิ์กล่าวว่า ตนเห็นว่าพี่น้องประชาชนในชนบทเชื่อว่าหากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปตั้งจะเกิดการพัฒนาได้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะนำสิ่งต่างๆ เข้ามา ซึ่งเข้าใจว่าในร่างกฎหมายจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนในส่วนที่เกรงว่าจะติดการพนัน ซึ่งกรมสุขภาพจิตจะมีบทบาทดำเนินการดูแลส่วนต่างๆ ตนจึงอยากให้หมอดูเรื่องการเยียวยาดูแล โดยที่วันนี้ขอให้มองภาพรวม เชื่อว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
สถานบันเทิงครบวงจร ตอบโจทย์สร้างรายได้ใหม่
ขณะที่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกระแสคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรว่า หลังจากสหรัฐอเมริกาเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้การค้าของไทยจะต้องเปลี่ยนโฉม เพราะถูกกำแพงภาษี จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาลไทยต้องหารายได้ใหม่ๆ ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญมากที่สุด
ดังนั้นสถานบันเทิงครบวงจรจึงตอบโจทย์การสร้างรายได้ใหม่ๆ ผู้ที่จะมาลงทุนจะต้องนำเงินมาให้ 1 แสนล้านบาท เพื่อทำให้ GDP สูงขึ้น และในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ยังจะมีการสร้างศูนย์การประชุมที่ใหญ่โต เพื่อที่จะได้มีการจัดแสดงนิทรรศการสินค้านานาชาติได้ ขณะที่ศูนย์ประชุมอย่างเมืองทองธานีหรือไบเทคบางนา มีเพียงศูนย์ประชุมเท่านั้น แต่ไม่มีองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งแตกต่างจากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกิจกรรมอื่นๆ สามารถพาครอบครัวมาได้ ตนจึงคิดว่าเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน
สุริยะกล่าวว่า ส่วนข้อกังวลเรื่องการติดการพนัน ยอมรับว่าน่าเป็นห่วง ตนเคยไปประเทศสิงคโปร์และเคยคุยกับผู้บริหารของมารีน่าเบย์แซนด์ส ผู้บริหารเล่าให้ฟังว่า สิงคโปร์จะมีองค์กรหนึ่งหากสมาชิกในครอบครัวเข้าไปเล่นแล้วมีคนในครอบครัวไม่เห็นด้วย สามารถเข้าไปร้องเรียนได้ที่องค์กรนี้ ซึ่งจะมีการแบล็กลิสต์ไม่ให้คนนั้นเข้าไปอีก ซึ่งประเทศไทยจะมีหน่วยงานลักษณะนี้เช่นกัน
ตนคิดว่าเรื่องนี้รัฐบาลไทยคิดรอบคอบ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คุยในสภาได้ ส่วนเสียงคัดค้านตนคิดว่าหากเรื่องนี้มีการพูดกันในสภา สส. ที่สนับสนุนจะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจและมองครบทุกมิติ แต่หากเราไม่ทำอะไรจะไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องบ่อนการพนันผิดกฎหมาย รวมถึงมีคนไทยไปเล่นบ่อนตามแนวชายแดน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทักษิณระบุว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยจะขับจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล สุริยะกล่าวว่า ไม่มีหรอก เพราะท่านไม่มายุ่งเรื่องนี้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องของรัฐบาล
ส่วนกระแสข่าวจะนำพื้นที่ท่าเรือคลองเตยมาทำ Entertainment Complex จริงหรือไม่ สุริยะกล่าวว่า ที่ผ่านมารายได้ของท่าเรือคือการที่เรือมาจอดเทียบท่า จึงอยากพัฒนาพื้นที่ให้มีรายได้มากกว่าเดิม สมมติถ้ามี Entertainment Complex อยู่ตรงนั้นก็จะมีรายได้เพิ่ม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปว่าเรื่องนี้มีอยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือคลองเตยหรือไม่ สุริยะกล่าวว่า ถ้าใครจะมาทำ Entertainment Complex ก็ต้องดูว่าท่าเรือคลองเตยจะได้ประโยชน์อย่างไร หรือจะเอาพื้นที่ไปให้เช่าทำอย่างอื่นแล้วมีรายได้ดีกว่า ก็เป็นเรื่องที่การท่าเรือต้องพิจารณาให้รอบคอบ