ผลสำรวจเผย ชาว UK เกินครึ่งเชื่อว่าโลกร้อนมีผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า

ผลสำรวจในสหราชอาณาจักรระบุว่าประชาชนเกินครึ่งมองว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีอิทธิพลสำคัญต่อการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ โดยเฉพาะเด็กยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวเป็นพิเศษ

ClientEarth สำนักงานกฎหมายสิ่งแวดล้อม เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่จัดทำขึ้นในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่กลุ่ม Extinction Rebellion ออกมาประท้วงและเหตุการณ์ Climate Strike ที่ส่งผลให้ผู้คนนับล้านหยุดเรียนและทำงานเพื่อออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องสิ่งแวดล้อม ด้วยการสอบถามประชาชนอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปกว่า 2,000 คน

ผลสำรวจพบว่าประชาชนกว่า 63% เชื่อว่านักการเมืองยังชูประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าน้อยเกินไป, 58% มองว่ารัฐบาลยังจัดการกับปัญหาเหล่านี้น้อยเกินไป, 59% เชื่อว่าธนาคารและสถาบันทางการเงินไม่ควรลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิล, 81% สนับสนุนให้ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น และ 63% สนับสนุน Green New Deal หรือนโยบายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและงานเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ประชาชนราว 54% บอกว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลต่อการลงคะแนนเสียงของพวกเขา โดยเฉพาะในกลุ่มประชาชนที่มีอายุน้อยกว่า 25 ปี มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 74%

ยิ่งไปกว่านั้น ประชาชนเกินครึ่งหนึ่งคิดว่าสหราชอาณาจักรได้เผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดโต่ง (Extreme Weather), คลื่นความร้อนที่ร้อนและยาวขึ้น, การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล, คลื่นพายุซัดฝั่ง, น้ำท่วมมากขึ้น, มลพิษทางอากาศ และการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตหลายชนิดแล้ว

โจนาธาน เชิร์ช นักกฎหมายจาก ClientEarth กล่าวว่า “ความต้องการที่หนักแน่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างความเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะประชาชนเกินครึ่งหนึ่งบอกแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีผลต่อการลงคะแนนเสียงของพวกเขา”

ภาพ: Peter Summers / Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: