คนส่วนใหญ่มีระดับเชาวน์ปัญญา (IQ) ประมาณเท่าไร? และในยุคต่อไปที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้ AI ฉลาดเท่ามนุษย์แล้วหรือยัง?
มาที่คำถามแรกว่าด้วยเรื่องของ IQ ระดับความฉลาดที่เป็นมาตรฐานโลกคือ 90-109 และคนส่วนใหญ่ราว 68% จะได้คะแนนอยู่ในช่วง 85-115 โดยประชากรประเทศที่มีค่าเฉลี่ยของ IQ สูงที่สุดก็คือญี่ปุ่น ที่ประมาณ 106.5
สำหรับประเทศไทยเราค่าเฉลี่ย IQ ของประชากรอยู่ที่ประมาณ 88.87 ถือเป็นอันดับ 64 ของโลก และหากเทียบกับมาตรวัดสากลของ Wechsler จะพบว่าคะแนนของเราตกอยู่ในช่วง 80-89 ที่มีความหมายว่า ‘ต่ำกว่าปกติเล็กน้อย’
อย่างไรก็ตาม ความฉลาดของ AI ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น มีโอกาสที่จะเข้ามาช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของมนุษย์ดีขึ้น เพิ่มความเป็นไปได้ใหม่ๆ ด้วยประสิทธิภาพและเชาวน์ปัญญาให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร เคยกล่าวไว้ว่า “ในอนาคตทักษะด้านสติปัญญาอาจไม่สำคัญมากเท่ากับทักษะการรับมือกับปัญหา (AQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)” เนื่องจากทั้งสองเป็นสิ่งที่ AI ยังทำไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่ามันจะเก่งทักษะเชาวน์ปัญญา (IQ) กว่าคนทั่วไปแน่นอน
แล้วในปัจจุบัน AI แต่ละตัวมีระดับ IQ เท่าไรกันบ้าง?
Maxim Lott ผู้ก่อตั้ง Maximum Truth เว็บไซต์รายงานข่าวที่เน้นการหาคำตอบผ่านข้อมูล ทำการทดสอบเพื่อที่จะค้นหาว่า AI ตัวไหนมีความฉลาดมากที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วแต่ละครั้งที่เราเห็นแถลงการณ์ออกโมเดลภาษาใหม่จากบริษัทเทคต่างๆ การรายงานจะมาในรูปแบบของโมเดลเทียบโมเดล แต่ Maxim เลือกใช้อีกวิธีก็คือการเทียบกับมาตรวัด IQ เพื่อความเข้าใจในบริบทที่ง่ายขึ้น
ในการทดสอบครั้งนี้ Maxim ใช้ข้อสอบ Mensa ของประเทศนอร์เวย์ที่เป็นการวัดเชาวน์ปัญญาผ่านโจทย์ปัญหารูปทรงเรขาคณิต แต่ด้วยข้อจำกัดของ AI ที่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าใจภาพได้เหมือนกับมนุษย์ Maxim จึงเขียนอธิบายรูปภาพผ่านข้อความอย่างละเอียดในระดับที่ผู้พิการทางสายตาก็สามารถเข้าใจได้
ตัวอย่างคำถามข้อสอบ Mensa
ภาพ: Maximum Truth
หลังจากการทดสอบ ผลปรากฏว่า GPT-4 หนึ่งในโมเดลยอดนิยมของหลายคนมีระดับ IQ ที่ 85 ซึ่งถือเป็นคะแนนที่สูงกว่าทุกโมเดล จนกระทั่ง Anthropic เปิดตัว Claude 3 โมเดลภาษาน้องใหม่ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการได้เพียง 2 สัปดาห์ แต่สามารถทำคะแนนได้ถึง 101 ทิ้งห่าง GPT-4 ที่ตกมาเป็นอันดับ 2 ด้าน IQ ได้อย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับโมเดลอื่น เช่น Gemini, Grok, และ GPT-3.5 มีระดับ IQ อยู่ที่ 77.5, 68.5, และ 64 ตามลำดับ ซึ่งก็กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นสำคัญที่ Maxim ชี้ให้เห็นถึงการทดลองครั้งนี้คือ ความฉลาดที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในแวดวง AI โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Claude 3 ที่ออกมาหลังจาก Claude 1 แค่ปีเดียว ซึ่งในปีที่แล้วตัวของ Claude 1 ยังมี IQ แค่ 64 เท่านั้น หรือเทียบเคียงกับระดับที่แทบจะไม่ต่างจากการ ‘กามั่ว’ ในแบบทดสอบเลย แต่ 365 วันถัดมาในต้นเดือนมีนาคมปีนี้ Claude 3 สามารถก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ได้
ด้วยอัตราเร่งในรูปแบบนี้ Maxim ตั้งสมมติฐานที่คาดว่าเวอร์ชันต่อไปของ Claude อาจสามารถทำแบบทดสอบ IQ ได้ 120 คะแนนในอีก 12-16 เดือน และ IQ ที่ 140 หรือระดับความฉลาดที่สูงกว่าคนทั้งโลก 99% ก็มีโอกาสเป็นไปได้ในอีก 16-32 เดือนต่อจากนั้น
แม้การมุ่งหน้าไปในทิศทางนี้จะเป็นเพียงสมมติฐานของ Maxim และไม่ได้มีการยืนยันจาก Anthropic ที่อาจติดอุปสรรคเรื่องเงินทุนหรือข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่ถ้ามองจากมุมเทคโนโลยีด้วยกฎของมัวร์ (Moore’s law) ที่กำลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุก 2 ปี แนวโน้มการพัฒนานี้ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นไปได้
ถ้าถามว่าโลกของเราจะดำเนินต่อไปอย่างไรในยุคที่ AI อาจพลิกขึ้นฉลาดมากกว่าคนส่วนใหญ่บนโลกในอีกไม่กี่ปี แน่นอนว่าชีวิตของเราจะเปลี่ยนในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากเทคโนโลยีที่เป็นเหมือนประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ แต่ผลลัพธ์ในตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไปสู่โลกในอุดมคติที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก หรือโลกที่ถูกครองด้วย AI สุดท้ายแล้วคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ภาพ: Anthropic
อ้างอิง:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เงิน 750 บาท เลือกใช้ AI ตัวไหนให้ตรงใจและคุ้มค่า?
- Apple หารือ Google เล็งดึง Gemini เข้ามาขับเคลื่อนฟีเจอร์บน iPhone
- อีลอน มัสก์ แซะ OpenAI ไม่ ‘โอเพน’ สมชื่อ เตรียมเปิด Open Source ‘Grok’ สัปดาห์นี้
- Maxim Lott ระบุว่า รุ่นของโมเดล Claude 3 ที่เขาใช้ทดสอบคือ Opus ซึ่งเป็นโมเดลที่ Anthropic เคลมว่าเป็นรุ่นที่ฉลาดมากที่สุดในวงการ