วันนี้ (3 สิงหาคม) ที่โรงแรมเดอะเดวิส สุขุมวิท 24 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าวในประเด็นการอภิปรายคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ‘มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์หรือไม่’
ชูวิทย์กล่าวตอนต้นว่า การแถลงครั้งนี้มีผู้พยายามที่จะไม่ให้ตนแถลงทุกวิถีทาง ตนยอมรับว่าตัวเองไม่มีต้นทุน แต่คนที่มีต้นทุนในเรื่องนี้คือ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ที่ตนทราบมาว่าไปคุกเข่ากับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาของทักษิณ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นนายกฯ
การแถลงในครั้งนี้ชูวิทย์ได้ยกประเด็นเรื่องที่ดินถนนสารสินมาอธิบาย พร้อมแสดงหลักฐานเป็นโฉนด การโอนจ่าย ธุรกรรมการจำนองที่ดิน และแผนผังของเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยช่วงหนึ่งระบุว่า
ที่ดินถนนสารสิน บริษัท ประไพทรัพย์ จำกัด ถือครองตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน 2526 ต้นทุน 7 ล้านบาท ต่อมาบริษัทประไพทรัพย์จดทะเบียนเลิกบริษัทเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2561 โดยมีการแบ่งที่ดินผืนดังกล่าวตามสัดส่วนผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย ประไพ, บุญศรี, อนณ, ธันยา, ณฐพงศ์, ภพธร, ชิน, อัครรัฐ, วีร์กฤติ, กุลกมล, ปวิตรา และ วีรวรรธน์ รวม 12 ราย
ซึ่งต่อมาชูวิทย์ระบุว่าบุคคลทั้ง 12 คนได้มีการโอนขายหุ้นให้บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ลักษณะแบ่งโอนแยกรายบุคคลทั้งที่เป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ซึ่งมองว่าเพื่อเป็นการเลี่ยงภาษี
ชูวิทย์ขยายความต่อว่า การทำนิติกรรมที่เกิดขึ้นถือเป็นนิติกรรมอำพราง คือการโอนพร้อมกัน 12 คน 1 วัน จะถือว่าโอนในฐานะคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งมีภาษีโอนที่ดินที่ต้องจ่ายคือภาษีกรมที่ดิน 59.2 ล้านบาท และภาษีสรรพากร ภ.ง.ด.90 อัตราก้าวหน้า 35% มูลค่า 521 ล้านบาท
แต่กลับกันหากโอนที่ดิน 12 คน 12 วัน จะเสียภาษีกรมที่ดินรวมทั้งสิ้น 59.2 ล้านบาทเท่านั้น ฉะนั้นแล้วกรณีนี้ทำให้รัฐเสียภาษี 521,130,789.05 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถือครองหุ้น 42,000 หุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) กรณีนี้ไม่ได้ทำให้รัฐเสียหายแม้แต่บาทเดียว พิธาจึงถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นนายกฯ
ชูวิทย์กล่าวว่า พฤติการณ์ของเศรษฐาถือว่าร่วมกันกระทำความผิดโดยการหลีกเลี่ยงภาษีให้ผู้ขาย ซึ่งเรื่องนี้คนขายที่ดินทำคนเดียวไม่ได้ เหมือนการตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรื่องนี้ต้องมีคนซื้อที่มีความรู้ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มาช่วยสนับสนุนความผิด
ในวันที่มีการซื้อขายโอนที่ดิน เศรษฐาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่รับรู้ เพราะวันนั้นเศรษฐามีสถานะเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นผู้ลงชื่อรับรองรายงานการประชุม
“ถ้าเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี แน่ใจหรือว่าคุณจะไม่ช่วยนายทุน จะไม่ช่วยเลี่ยงภาษี เพราะการซื้อขายขนาดแค่นี้คุณยังช่วย ฉะนั้นเศรษฐาไม่มีทางมีความบริสุทธิ์ในการปฏิบัติหน้าที่ ท้ายที่สุดประเทศไทยจะได้นายกฯ ที่เป็นนายทุน” ชูวิทย์กล่าว
จากนั้นชูวิทย์ได้นำถาดพิซซ่าขึ้นมาแสดงตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบการตัดแบ่งโอนที่ดินเป็น 12 ชิ้น และระบุว่าอีกข้อน่าสงสัยคือทำไมในที่ดินผืนเดียวกันสามารถแบ่งขายได้หลากหลายราคา 12 คน ขายคนละราคา
อย่างไรก็ตาม ตนจะนำข้อมูลและเอกสารที่นำมาแถลงวันนี้ไปยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประธานรัฐสภา และกรมสรรพากร เพื่อให้นำข้อมูลนี้ไปประกอบในการพิจารณาโหวต เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
เพราะตนเชื่อว่าพฤติการณ์เหล่านี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ที่ระบุว่านายกฯ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และถือว่ามีความผิดตามประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2481 มาตรา 37 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
“เขาเป็นคนตัวสูง มักจะมองข้ามคนอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ชอบ เพราะถือว่ามาในฐานะตั๋วปูของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เศรษฐาเป็นคนมีอีโก้สูง ปากไวใจร้อน ตนรู้พฤติกรรมหมดเวลาจะแฉใคร” ชูวิทย์กล่าว
ส่วนที่มีผู้สงสัยว่าการออกมาเปิดโปงครั้งนี้ของตนเป็นเรื่องส่วนตัว เนื่องจาก บมจ.แสนสิริ ไม่ซื้อที่ดินของตนเองหรือไม่ ชูวิทย์กล่าวว่าตนขายที่ดินนั้นให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่งไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ฉะนั้นขายให้ บมจ.แสนสิริ ไม่ได้ แต่ทั้งนี้ บมจ.แสนสิริ เคยส่งคนมาเจรจาเรื่องที่ดินดังกล่าวจริงเมื่อปี 2565
ชูวิทย์กล่าวว่า การออกมาเปิดโปงของตนเป็นไปเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน งานนี้ตนขอแฉเพื่อชาติ เพราะตนมีเวลาไม่นานแล้ว เมื่อเช้าตนไปรับการรักษามะเร็งด้วยคีโมมา แต่ตนคิดว่าถึงจะตายไปวันนี้ พรุ่งนี้ทุกอย่างก็กลับมาแบบเดิม
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ทั้งหมดของพรรคเพื่อไทยส่วนตัวมองว่า ชัยเกษม นิติสิริ เป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ เพราะเป็นผู้มีอายุมากแล้ว คงไม่ได้คาดหวังเงินทองใดๆ และยังมีความเป็นนักกฎหมาย ซึ่งเดิมคุณหญิงพจมานและทักษิณเองก็เลือกชัยเกษม
นอกจากนี้ชูวิทย์ยังแบ่งประเด็นการเปิดเนื้อหาเป็น 10 ตอน ประกอบด้วย
EP.1 ชื่อตอน 12 คน 12 วัน
EP.2 ชื่อตอน ปั่น
EP.3 ชื่อตอน บวม
EP.4 ชื่อตอน ขงเบ้ง
EP.5 ชื่อตอน ร้าง
EP.6 ชื่อตอน แพะชนแกะ
EP.7 ชื่อตอน ฟอก
EP.8 ชื่อตอน ตัดตอน
EP.9 ชื่อตอน กู้
EP.10 ชื่อตอน บทสรุปธาตุแท้ของนายทุน
ในช่วงท้ายของการแถลง ชูวิทย์ได้เปิดแผ่นไวนิลที่เป็นข้อมูลของการซื้อโอนที่ดินที่เป็นประเด็นกับเศรษฐาต่อสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่าทักษิณจะยังไม่เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้อย่างแน่นอน เพราะทุกอย่างยังไม่ลงตัว เนื่องจากพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เวลา 14.00 น. เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคการเมือง เดินทางมาขอพบชูวิทย์ โดยระบุว่ามาเพื่อขอข้อมูลที่ชูวิทย์ได้แถลงในวันนี้