วันนี้ (11 มิถุนายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าหลังการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ที่ปลุกกระแสต่อต้านการเหยียดสีผิว #BlackLivesMatter ขึ้นอีกครั้งในสังคมอเมริกัน กลายเป็นเเรงขับเคลื่อนให้พลเมืองจำนวนมากต่างออกมาต่อต้านความอยุติธรรมในมิติอื่นๆ ของสังคม โดยบรรดารูปปั้นและอนุสรณ์สถานที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของการกดขี่ การค้าทาส การเหยียดเชื้อชาติ ต่างทยอยถูกทำลาย
รูปปั้น คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส คือหนึ่งในนั้น มีรายงานว่ารูปปั้นโคลัมบัสหลายแห่งทั่วประเทศถูกทำลายลงเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับชนพื้นเมืองที่เสียชีวิต กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่าเขาก็ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรที่เข่นฆ่าชาวอินเดียนแดงไปเป็นจำนวนมาก รูปปั้นของเขาบางแห่งบ้างก็ถูกตัดหัว บ้างก็ถูกโยนลงทะเลสาบ บ้างก็ถูกลากไปตามพื้นถนน
ทางด้าน มาร์ติน วอล์ช นายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน หนึ่งในเมืองที่รูปปั้นของโคลัมบัสถูกทำลาย ระบุว่ารูปปั้นดังกล่าวถูกตั้งเป็นครั้งแรกในเมืองนี้เมื่อปี 1979 ก่อนที่จะถูกทำลายด้วยการพ่นสีสเปรย์เมื่อปี 2015 รูปปั้นที่เพิ่งจะถูกตัดหัวนี้เป็นรูปปั้นใหม่ที่ถูกนำมาตั้งแทนรูปปั้นเดิม สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งในเมืองบอสตันรวมถึงอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศสะท้อนให้เราเห็นว่าอาจถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์อีกครั้งเพื่อทำความเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ภาพ: Tim Bradbury / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: