หลังเกือบต้องจากไปแบบกะทันหันหลังหัวใจวายระหว่างเกมฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อ 290 วันก่อน คริสเตียน อีริกเซน สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติเดนมาร์ก เดินนำทีมลงสนามปาร์เคนสเตเดียมอีกครั้งท่ามกลางการต้อนรับที่อบอุ่นของแฟนๆ และที่พิเศษกว่านั้นคือ กองกลางวัย 30 ปี สามารถทำประตูได้ด้วย
โดยหลังจากที่เกิดเหตุไม่คาดฝันในเกมฟุตบอลยูโร 2020 นัดระหว่างเดนมาร์กกับฟินแลนด์เมื่อเดือนมิถุนายนปีกลาย ที่จู่ๆ อีริกเซนก็หมดสติล้มลงไปกับพื้นสนามโดยไม่มีผู้เล่นคนใดอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่แพทย์ประจำทีมและแพทย์สนามจะรีบเข้ามาช่วยชีวิตเป็นการด่วน และสามารถยื้อชีวิตของกองกลางจอมเทคนิค ซึ่งเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าได้ ‘ตายไป 5 นาที’ กลับมาได้สำเร็จ
หลังจากนั้นอีริกเซนได้เข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดฝังเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (ICD) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมอีก และค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพร่างกายจนสามารถกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพได้อีกครั้ง ซึ่งแม้จะไม่สามารถอยู่กับต้นสังกัดเดิมอย่างอินเตอร์ มิลาน ได้อีก เนื่องจากในอิตาลีไม่อนุญาตให้นักฟุตบอลที่ติดเครื่อง ICD ลงแข่งขันได้ แต่ก็ยังได้รับโอกาสจากเบรนท์ฟอร์ดให้กลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ก่อนจะทำผลงานได้ดีและได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติ
แม้ว่าอีริกเซนจะได้โอกาสคืนสนามทีมชาติไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่โอกาสสำคัญที่สุดที่ดาวเตะวัย 30 ปี รอคอยคือ การลงเล่นในปาร์เคนสเตเดียม สนามเดิมกับที่เขาเคยเกือบจะเสียชีวิต อีกครั้ง และได้โอกาสนั้นในเกมที่เดนมาร์กอุ่นเครื่องกับทีมชาติเซอร์เบียเมื่อคืนที่ผ่านมา
โดยในเกมนี้อีริกเซนได้รับปลอกแขนกัปตันทีมเดินนำเพื่อนร่วมทีมลงสนามด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะทำประตูได้ 1 ลูก และทีมชนะเซอร์เบียขาดลอย 3-0 ซึ่งหลังจบเกมดาวเตะเบรนท์ฟอร์ดกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ฉากสุดท้าย นี่มันเป็นแค่การเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลที่จะดำเนินต่อไป
“มันเป็นแค่การพักเบรกไม่กี่เดือน ตอนนี้ฟุตบอลจะได้กลับมาสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เป็นกัปตันทีมและเดินนำลงสนาม ผมเคยเป็นกัปตันทีมมาก่อน แต่ไม่ใช่ที่สนามแห่งนี้ การได้เดินนำทีมลงสนามกีฬาแห่งชาติในฐานะกัปตันทีมครั้งแรกเป็นสิ่งที่พิเศษ เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย และจะเป็นสิ่งที่ผมจะภูมิใจไปตลอด มันเป็นความรู้สึกที่งดงามมากจริงๆ”
อ้างอิง: