×

หมอชลน่านแจงแนวทาง ‘เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย’ แต่ถ้าเป็นผู้ค้า พบยาบ้าเม็ดเดียวก็ถูกดำเนินคดี

โดย THE STANDARD TEAM
12.02.2024
  • LOADING...

วันนี้ (11 กุมภาพันธ์) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน จึงขอชี้แจงดังนี้

 

  1. เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ประชุมกัน  เพื่อวางหลักเกณฑ์ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประเภทยาบ้า หลังจากนำเสนอข้อมูลของแต่ละฝ่ายอย่างรอบคอบและรอบด้าน มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าผู้ที่มียาบ้าไม่เกิน 5 เม็ด เมื่อถูกตำรวจจับได้ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และให้เป็นผู้ป่วยจิตเวชที่ควรนำไปบำบัดรักษาให้หายเป็นปกติ ซึ่งปกติจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี

 

แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับความสมัครใจของผู้นั้นว่าจะยอมไปบำบัดรักษาหรือไม่ ถ้าไม่ยอมรับการบำบัดก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หากพิสูจน์ได้ว่ามีพฤติการณ์ขายต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย

 

  1. ส่วนผู้ที่มียาบ้าเกินกว่า 5 เม็ด เช่น มี 6 เม็ดหรือมากกว่านี้ ถูกตำรวจจับ ให้ถือเป็นผู้ครอบครองยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีโทษเท่ากับการจำหน่าย ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายยาเสพติดให้โทษ นั่นคือจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี

 

  1. ข้อสรุปนี้เป็นผลจากการประชุมร่วมกันของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม สำนักงาน ปปส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ ศาลยุติธรรม เป็นต้น

 

  1. กระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายและแนวทางที่ชัดเจน ซึ่งได้กล่าวย้ำกับบุคลากรของกระทรวงมาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ก็คือเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า เป็นยาเสพติดให้โทษที่ห้ามเสพ ห้ามมีไว้ในครอบครอง ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า ส่งออก หรือห้ามจำหน่ายไม่ว่าจะกี่เม็ดก็ตาม ถือว่าเป็นความผิด ต้องได้รับโทษ

 

แต่มีเงื่อนไขเรื่องจำนวนเม็ดที่กำลังพิจารณาดำเนินการอยู่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เช่น มีไว้เสพก็ต้องรีบนำไปบำบัดรักษาให้หาย ก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อตัวผู้เสพเอง หรือเมื่อเกิดอาการจิตหลอนก็ใช้อาวุธไปทำร้ายคนรอบข้าง ได้แก่ ลูก เมีย พ่อแม่ ญาติพี่น้อง และคนทั่วไปจนถึงแก่ชีวิต ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชน ถ้าพบพฤติการณ์มียาไว้จำหน่ายก็จะต้องได้รับโทษหนัก

 

  1. ยาบ้า 5 เม็ด ยืนยันว่าไม่ได้นั่งคิดขึ้นมาเองตามใจชอบ แต่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์ และแพทย์ทางด้านสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้นำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้

 

  1. ตามขั้นตอน ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะส่งเรื่องนี้ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมตรี เพื่อจัดให้มีกระบวนการรับฟังความเห็นต่อการกำหนดจำนวนเม็ดยาบ้าดังกล่าว หลังได้แนวทางซึ่งเป็นไปตามที่กระทรวงเสนอ และได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี นำมาประกาศเป็นกฎกระทรวง

 

นพ.ชลน่าน กล่าวย้ำว่า ทั้งหมดผ่านการลงความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าผู้ค้า ผู้เสพ ทุกฝ่ายในสังคมต้องร่วมมือกัน ใครมีหน้าที่ปราบปรามจับกุมก็ทำอย่างเข้มแข็ง กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่บำบัดรักษา ส่งคืนสู่สังคม พยายามให้ไม่ย้อนกลับไปเสพใหม่ การดำเนินการผ่านกระบวนการคิดจากหลายๆ ฝ่ายมาร่วมมือกัน ใครถือเป็นผู้ป่วยต้องเข้ารับการบำบัด

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นผู้เสพแต่ถ้ามีพฤติกรรมและพยานแวดล้อมว่าเป็นผู้ค้า ไม่ว่าจะกี่เม็ดก็ต้องติดคุก รัฐบาลจะดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ ‘เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย’ สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ผู้เสพต้องเข้ารับการบำบัด เมื่อบำบัดครบ ได้รับการรับรอง จึงถือว่าไม่ต้องรับโทษ และเมื่อผ่านการบำบัดทางการแพทย์แล้ว จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดทางสังคมโดยหลักการชุมชนบำบัด จนสามารถเชื่อได้ว่าไม่กลับไปเสพซ้ำ มีพฤติกรรมที่ดี สามารถที่จะกลับสู่สังคมได้

 

“ผมมีความมุ่งมั่นที่จะคืนลูกหลานสู่อ้อมกอดของชุมชน ขณะเดียวกัน ก็เร่งบำบัดช่วยเหลือโรคสมองติดยาของผู้เสพให้ดีขึ้น ลดปัญหาการกลับไปเสพใหม่ ไม่กลับไปเสพซ้ำ ให้เป็นพลเมืองดี เพื่อสังคมที่เป็นสุขและประเทศชาติปลอดภัยจากยาเสพติด ย้ำ ผู้ค้าเม็ดเดียวก็ติดคุก” นพ.ชลน่าน กล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising