Chipotle ร้านอาหารสไตล์เม็กซิกันที่กำลังมาแรงในสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นราคาค่าอาหารประมาณ 4% โดยให้เหตุผลว่า เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายของค่าจ้างที่สูงขึ้นสำหรับพนักงาน
ต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ค่าจ้างของพนักงานสูงขึ้นนั้นมาจากความต้องการของผู้บริโภคกลับมาอีกครั้งสำหรับการกินอาหารในร้านอาหาร แต่จำนวนพนักงานที่กลับมาทำงานในร้านอาหารนั้นกลับสวนทางกับลูกค้าที่เดินเข้าร้านมากขึ้น
ตามรายงานของกระทรวงแรงงานระบุว่า ในเดือนพฤษภาคมอุตสาหกรรมการบริการได้เพิ่มงาน 292,000 ตำแหน่ง แต่การจ้างงานในสาขาเหล่านั้นยังคงลดลง 2.5 ล้านตำแหน่ง เมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโรคระบาด
นั่นทำให้ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหล่านี้ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น Chipotle, Starbucks และ McDonald’s ต้องเพิ่มข้อเสนอที่หอมหวาน ผ่านการเสนอค่าแรงรายชั่วโมงที่เพิ่มขึ้น เพื่อจูงใจพนักงานใหม่และรักษาพนักงานปัจจุบันไว้
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม Chipotle กล่าวว่า มีแผนจะจ้างพนักงานเพิ่มอีก 20,000 คน และจะเพิ่มค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับพนักงานร้านอาหารให้ถึงค่าเฉลี่ย 15 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 467 บาทต่อชั่วโมงภายในสิ้นเดือนมิถุนายน
นอกจากนี้ Chipotle ยังเสนอโบนัสพิเศษอีก 200 ดอลลาร์สหรัฐ และกล่าวว่าพนักงานสามารถได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไป โดยได้รับค่าตอบแทนเฉลี่ย 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.1 ล้านบาท ภายในเวลาประมาณสามปีครึ่ง
ผู้บริหารของ Chipotle ได้กล่าวในการประชุม Baird Global Consumer, Technology & Services Conference ว่าพวกเขาจะส่งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภค โดย Brian Niccol ซีอีโอของ Chipotle กล่าวว่า “บริษัทไม่ต้องการขึ้นราคา แต่การเคลื่อนไหวนั้นสมเหตุสมผลในสถานการณ์นี้”
โดย Chipotle ย้ำว่า สำหรับตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนที่จะขึ้นราคาอีก ด้านราคาหุ้นของ Chipotle ซื้อขายเพิ่มขึ้น 1.3% ในวันอังคาร (8 มิถุนายน) แต่โดยรวมแล้วราคายังลดลง 3% ในปีนี้ ทำให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 3.772 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.2 ล้านล้านบาท
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: