×

หุ้นจีน “ลงทุนได้หรือไม่”

30.04.2023
  • LOADING...
หุ้นจีน

‘หุ้นจีน’ เป็นหนึ่งในการลงทุนที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุด แต่กลับเป็นการลงทุนที่สร้างความผิดหวังมากที่สุดในปี 2023

 

ผมก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิเคราะห์ที่มองว่าหุ้นจีนน่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่านี้ แต่เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นตามคาดก็ต้องประเมินเหตุผลกันใหม่ว่า

 

หุ้นจีน “ลงทุนได้หรือไม่”

 

แม้หุ้นจีนจะมีจุดแข็งมากมาย แต่ปี 2023 ก็มีปัญหาที่ต้องระวังเพิ่มขึ้นหลายอย่าง

 

ข้อแรกคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้จะดีขึ้นตามคาด แต่ช้าที่สุดในประวัติศาสตร์ และขับเคลื่อนด้วยการบริโภคซึ่งมีสัดส่วนน้อย

 

เศรษฐกิจจีนหลังคลายมาตรการ Zero-COVID เปิดตัวได้ดี และคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง 

 

อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่มีสัดส่วนกว่า 40% ต่อ GDP กลับเติบโตเพียง 3-7% ถ้าภาครัฐไม่ได้เน้นโครงสร้างพื้นฐานเหมือนสมัยต้นศตวรรษ 2000 ก็ยากที่จะเห็นการเติบโตระดับสูงในระยะยาว

 

ส่วนการบริโภคของชาวจีน แม้จะฟื้นตัวแรงและมีสัดส่วนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัจจุบันก็อยู่ในระดับ 30-40% ต่อ GDP ต่างจากเศรษฐกิจใหญ่อื่นๆ ที่การบริโภคเป็นสัดส่วนถึงกว่า 70% ต่อ GDP 

 

ถ้าภาคอุตสาหกรรมไม่ฟื้นตัว รายได้เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนจีนทั้งใน MSCI China หรือ CSI 300 ในปีนี้อาจเติบโตเพียง 0-5%

 

เมื่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่เกิดขึ้นในทุกกิจกรรม รอยร้าวด้าน Valuation ที่ ‘โตในธีมที่ไม่ถูก แต่ถูกในธีมที่ไม่โต’ ก็เห็นชัดเจนขึ้น

 

ที่จริงจุดแข็งเรื่อง ‘ความถูก’ ของหุ้นจีนยังคงอยู่

 

เพราะปัจจุบันเปรียบเทียบ Long Term P/E ระหว่าง CSI 300 กับ MSCI All-Country World Index ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 19 และ 23 เท่า หมายความได้ว่าหุ้นจีนยังถูกกว่าหุ้นโลกถึงราว 20%

 

แต่ต้องไม่ลืมว่า Valuation นี้ได้มาจากการผสมกลุ่มมูลค่า (Value) และปันผล (High Dividend) ที่มี P/E ที่ต่ำเพียง 5-10 เท่า กับธีมเติบโตที่มาพร้อมกับความคาดหวังสูง ราคาแพงผิดปกติ

 

เช่น พลังงานทางเลือก (MSCI China IMI Environment 10/40 Index) ล่าสุด Bloomberg ชี้ว่าซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ P/E เกิน 100 เท่า และปีนี้รายได้ต้องเติบโตถึง 400% ถึงจะมี P/E กลับสู่ค่าเฉลี่ย 10 ปี

 

ต่อให้รายได้เติบโตตามความคาดหมาย การเปลี่ยนระดับราคา (P/E Relating) จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีเงินใหม่จากนักลงทุนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่

 

การถือครองของต่างชาติที่ต่ำกว่าขนาดเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในจุดเด่นของหุ้นจีน แต่การเมืองระหว่างประเทศอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะไม่ถือหุ้นจีนก็เป็นได้

 

ข้อมูลล่าสุด Wind และตลาดหลักทรัพย์จีนชี้ว่า นักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนถือครองหุ้นจีนเพียงราว 18% น้อยกว่าหุ้นไทยที่ 23% และไต้หวัน 39% ขณะที่การลงทุนใน A-Share ของนักลงทุนสหรัฐอเมริกาคาดว่ามีสัดส่วนเพียง 1% ต่อ Market Cap เท่านั้น

 

อย่างไรก็ดี สัดส่วนการถือครองที่ต่ำอาจไม่ได้เกิดจากนักลงทุนทั่วโลกลืมคิดที่จะแบ่งการลงทุนมาที่จีน แต่อาจเกิดจากความตั้งใจที่จะลดความเสี่ยงด้านการเมือง

 

เพราะไล่เรียงตั้งแต่เรื่องความขัดแย้งทางความคิด ภูมิรัฐศาสตร์ มาจนถึงความเสี่ยงนโยบายควบคุมการลงทุนด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ปี 2023 ถือเป็นหนึ่งปีที่การเมืองระหว่างประเทศของจีนมีประเด็นมาโดยตลอด

 

ในช่วงเวลาปกติ ความเสี่ยงลักษณะนี้มักได้รับชดเชยด้วยการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ปัจจุบันก็มีปัญหา เมื่อเงินหยวนไม่อ่อนค่า กลายเป็นปัจจัยที่ขัดขวางการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

 

ความผิดปกตินี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากเงินหยวนที่แข็งผิดปกติ แต่ดูจะเกิดจากดอลลาร์อ่อนค่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว ตลาดมองว่า Fed ต้องหยุดขึ้นดอกเบี้ย ไปจนถึงความกังวลว่าตลาดจะลดการใช้ดอลลาร์ (De-Dollarization)

 

กลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มขนส่งจีนที่ควรฟื้นตัว แต่กลับเป็นกลุ่มที่มีรายได้จากสกุลเงินต่างประเทศสูง จึงกลายเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ตลาดสับสนของตลาด

 

ถึงจุดนี้ผมเชื่อว่านักลงทุนหลายท่านคงมีคำตอบในใจสำหรับคำถามว่า “หุ้นจีนลงทุนได้หรือไม่”

 

สำหรับผม คำตอบแน่นอนว่า “ลงทุนได้” แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ ‘สัดส่วนการลงทุน’ ที่ควรปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ 

 

ถ้าสมมติฐานหลักของเราคือความขัดแย้งจะไม่จบลงในเร็ววันนี้ อย่างน้อยก็ควรปรับสัดส่วนลงทุนในจีนไม่ให้เกิน 20-30% โดยอาจเลือกเพิ่มหรือลดการลงทุนเมื่อราคาเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยจากประเด็นการเมือง เช่น ซื้อเมื่อมีข่าวร้าย และขายเมื่อมีข่าวดี

 

นอกจากนี้นักลงทุนอาจเลือกหาสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของจีน แต่ไม่ต้องรับความเสี่ยงจากการเมืองจีนหรือค่าเงินหยวน

 

เช่น หุ้นญี่ปุ่นหรือยุโรปที่ไม่ผันผวนไปตามทิศทางเงินหยวน แต่มีโอกาสฟื้นตัวไปพร้อมกับวัฏจักรเศรษฐกิจ การบริโภค และการค้ารอบใหม่ของจีน

 

หรือแบ่งสัดส่วนไปลงทุนใน ‘ตัวสำรอง’ ของหุ้นจีน เช่น หุ้นอินเดีย หุ้นอินโดนีเซีย หรือ Emerging Markets อื่นๆ ที่รายได้เติบโตสูงพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ในมุมมองของผม พื้นฐานหุ้นจีนไม่ได้แย่ลงมาก แต่ก็ไม่โดดเด่นในระยะสั้นเมื่อมีการเมืองคอยกดดัน Valuation ไม่สามารถกลับขึ้นไปซื้อขายในระดับสูงได้ในระยะสั้น

 

โอกาสลงทุนในหุ้นจีนมีอยู่เสมอ แต่ “ลงทุนได้หรือไม่” คำตอบอาจไม่ได้ถูกกำหนดด้วยเศรษฐกิจจีนเพียงอย่างเดียวนะครับ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising