ภาพของผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยออกมาเต้นสะบัดลวดลายในงานศพอาจจะเป็นภาพที่ไม่คุ้นตาสำหรับคนไทยมากนัก แต่ไม่ใช่สำหรับชาวจีนในบางพื้นที่แถบชนบท ผู้คนที่นี่มักจะมีธรรมเนียมปฏิบัติโดยการจ้างสาวระบำเปลื้องผ้าให้มาร่วมสร้างสีสันแก่บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตและแขกที่มาร่วมงาน
บรรยากาศของงานศพที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ เสียงผิวปากด้วยความชอบใจและท่าทางการเต้นที่เชื้อเชิญให้ทุกคนภายในงานลืมความเศร้าจากการสูญเสียไปชั่วขณะหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันในบางพื้นที่นี้ดูเหมือนจะไม่เข้าตารัฐบาลจีนเท่าที่ควร ล่าสุดกระทรวงวัฒนธรรมจีนได้ประกาศห้ามไม่ให้มีการแสดงที่ขัดต่อศีลธรรมและประเพณีอันดีงามของชาวจีนอย่างระบำโป๊เปลือยและเปลื้องผ้าในงานศพ งานแต่งงาน หรือเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับทางศาสนาโดดเด็ดขาด ซึ่งทางการได้เริ่มตรวจตราอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในพื้นที่มณฑลเหอหนาน อันฮุย เจียงซู และเหอเป่ย เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยต้อนรับเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง
ทางการจีนยังได้เปิดช่องทางสายด่วนเพื่อให้ประชาชนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีการแสดงที่ขัดต่อศีลธรรมเกิดขึ้นในงานพิธีต่างๆ ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินรางวัลที่รัฐบาลจีนจัดสรรให้เป็นค่าตอบแทน โดยทางการจีนหวังว่าวิธีนี้จะช่วยไม่ให้การแสดงพฤติกรรมที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีนี้ขยายตัวออกไปยังพื้นที่อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น
สังคมชนบทของจีนกำลังเสื่อมถอยลง?
เดิมทีสังคมคนจีนในชนบทจะมีธรรมเนียมจ้างวงดนตรีพื้นบ้านมาร่วมแสดงในงานศพเพื่อคลายความทุกข์ให้กับคนในงาน และเป็นการให้เกียรติแก่บุคคลผู้ล่วงลับ ซึ่งการแสดงของวงดนตรีเหล่านี้จะเป็นอีกเครื่องมือที่ช่วยดึงดูดคนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยพวกเขาเชื่อว่ายิ่งมีคนมาร่วมงานมากเท่าไรก็เป็นเครื่องยืนยันว่า บุคคลผู้ล่วงลับและครอบครัวได้รับการนับหน้าถือตาเป็นอย่างมาก
ธรรมเนียมนี้เริ่มต้นขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ชิง ชาวจีนหรือแม้แต่ชนกลุ่มน้อยอย่างชาวถูเจีย (Tujia) ที่มีประชากรรวมทั้งหมดกว่า 8 ล้านคนก็ซึมซับวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวเช่นกัน
แต่ช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงเลื่อนไหลจากวงดนตรีในท้องถิ่นกลายเป็นการจ้างงานนักแสดง นักร้องชื่อดัง ดาราตลก หรือแม้แต่ระบำเปลื้องผ้า เพื่อคลายความทุกข์และความโศกเศร้าของผู้คนภายในงานแทน
นักข่าวจาก China Society Journal เคยเข้าพื้นที่สำรวจและเก็บข้อมูลงานศพในพื้นที่แถบตะวันออกของมณฑลอันฮุยในปี 2006 พบว่ามีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่รับสมัครหญิงสาวสวยและเน้นความเซ็กซี่เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้ความบันเทิงในงานศพ ซึ่งทำให้วงดนตรีท้องถิ่นแบบเดิมสูญเสียส่วนแบ่งในตลาด บางวงถึงกับยุบไป ขณะที่บางวงต้องปรับตัวให้มีภาพลักษณ์ที่หวือหวาและเอาใจคนดูมากขึ้น หรือกลายเป็นวงดนตรีแนวโฟล์กซองที่มีเนื้อหาและท่าทางที่ล่อแหลมมากขึ้นเพื่อเพิ่มสีสัน
รัฐบาลจีนได้เฝ้าจับตาธรรมเนียมปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมชนบทนี้มาโดยตลอด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงและพลังสำคัญของรัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรมชี้แจงว่า การแสดงในลักษณะที่แปลกตาและกำลังทวีความนิยมอยู่ในขณะนี้อาจเปิดช่องโหว่ให้เกิดปัญหาคอร์รัปชันในสังคม และสะท้อนถึงการเป็นสังคมที่ยังไม่พัฒนา โดยทางการยืนยันว่าการแสดงโป๊เปลือยในพื้นที่สาธารณะยังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศจีน ผู้ใดจ้างนักแสดงลักษณะนี้เพื่อดึงดูดให้มีแขกเข้าร่วมงานจำนวนมากจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กวาดล้างและจับกุมทั้งคณะผู้แสดงและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามสังคมชนบทเป็นจำนวนมาก โดยจะได้รับโทษจำคุกสูงสุดนาน 15 วัน ปรับเป็นเงิน 70,000 หยวน (ราว 346,000 บาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลังจากที่กระแสนี้แพร่สะพัดออกไปในโลกออนไลน์ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงความเหมาะสม และต่างมองว่าสังคมจีนชนบทกำลังถูกมอมเมา ถูกกัดเซาะค่านิยมและศีลธรรมอันดี ในขณะที่ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยออกมายืนยันว่า “ตราบใดที่ทุกคนมีความสุข สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ”
ด้าน หวงเจียนซิง อาจารย์ภาควิชาสังคมวิทยาและประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัย Fujian Normal เปิดเผยว่า การเต้นระบำเปลื้องผ้าเพิ่งถูกจัดให้อยู่ในลิสต์การแสดงเพื่อความบันเทิงในงานศพในช่วงราวทศวรรษ 1990 ที่ผ่านมา โดยสังคมชนบทบางแห่งเชื่อว่าการเต้นด้วยท่าทางที่ล่อแหลมและโป๊เปลือยจะนำพาความสุขและความปรารถนาดีของผู้ล่วงลับกลับคืนสู่ลูกๆ หลานๆ ทุกคน
ธรรมเนียมดังกล่าวขัดต่อศีลธรรมและภาพลักษณ์อันดีของประเทศ โดยทางการจีนมองว่าสาเหตุหนึ่งที่สำคัญมาจากการขาดความรู้และการเข้าถึงการศึกษา ดังนั้นจึงทุ่มงบประมาณมากกว่า 2 หมื่นล้านหยวน (ราว 9.9 หมื่นล้านบาท) ในการจัดสร้างร้านหนังสือในชนบทกว่า 600,000 แห่งเพื่อให้ความรู้และความเข้าใจแก่พี่น้องชาวจีนในชนบท แต่วิธีการดังกล่าวกลับเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เนื่องจากหนังสือส่วนใหญ่อย่าง หนังสือหลักจัดงาน Banquets หรือวิธีการฝึก Windows XP BIOS ไม่ตรงต่อความต้องการและความสนใจของผู้คนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรและเป็นชาวนา อีกทั้งยังเป็นแหล่งระบายหนังสือค้างสต็อกเท่านั้น
โดยอาจารย์หวงกล่าวว่า เขาจะไม่มองการแสดงดังกล่าวว่าเป็นขยะทางด้านวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมชาวจีนชนบท เนื่องจากธรรมเนียมเหล่านี้ถูกสืบทอดต่อกันในสังคมจากรุ่นสู่รุ่น มีคุณค่าในตัวมันเอง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือรัฐจะต้องหาพื้นที่ในการแสดงออกเรื่องเพศให้กับผู้คน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทเพิ่มมากขึ้นในแนวทางที่รัฐยอมรับได้และเห็นสมควร เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความหลากหลายได้
อ้างอิง: