วันนี้ (23 กันยายน) รัฐบาลจีนประกาศว่า Pan Gongsheng ผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน เตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ (24 กันยายน) ซึ่งเป็นการแถลงข่าวหลังการลดอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
การเคลื่อนไหวเหล่านี้ช่วยเพิ่มความคาดหวังว่าธนาคารกลางจีนจะลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ธนาคารกลางของจีนยังได้ส่งสัญญาณว่าเตรียมออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกด้วย
ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนที่น่าผิดหวังในเดือนสิงหาคม ทำให้เกิดความกังวลว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง อาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ 5% ได้หากไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐเพิ่มเติม
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ลดลง 0.01% สู่ระดับต่ำสุดใหม่ที่ 2.03% เป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังคาดการณ์ว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายทางการเงินมากขึ้น ขณะเดียวกันในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกลางจีนได้ปรับอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงรายวันของหยวนขึ้นเป็น 7.0531 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งทำให้มีโอกาสสูงขึ้นที่จะได้เห็นหยวนที่ในระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์
“ผมคาดว่าธนาคารกลางจีนจะลดอัตราดอกเบี้ย Reverse Repo Rate ระยะ 7 วัน รวมถึงปรับลดอัตราการตั้งสำรองเงินลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” Zhiwei Zhang ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ Pinpoint Asset Management กล่าว
“งานแถลงข่าวในวันอังคารนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้กำกับดูแลทางการเงินได้เปิดเผยจุดยืนทางนโยบายของพวกเขา” เขากล่าวเสริม
ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเคยใช้การบรรยายที่คล้ายกันในเดือนมกราคม เพื่อประกาศการปรับลดปริมาณการตั้งเงินสำรองที่ธนาคารต้องถือครองล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนประกาศจริง เนื่องจากรัฐบาลพยายามหยุดการทรุดตัวลงของตลาดหุ้นที่มีมูลค่ากว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์
ผู้ว่าการธนาคารกลางได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่โปร่งใสมากขึ้นในการดำเนินนโยบายในช่วงปีแรกที่เขาดำรงตำแหน่ง เพื่อพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม การลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมายังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 5 ไตรมาสได้
วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อมานานหลายปี ทำให้ความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนลดลงไปประมาณ 18 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยลดลง และผลักดันจีนเข้าสู่ภาวะเงินฝืดที่ยาวนานที่สุดตั้งแต่ปี 1999
“ขณะนี้ความสนใจต่างมุ่งไปที่อัตราการเติบโตในไตรมาสที่ 4 ของจีน ว่าจะใกล้เคียงกับเป้าหมายประจำปีหรือไม่” Ken Wong ผู้เชี่ยวชาญพอร์ตการลงทุนหุ้นเอเชียจาก Eastspring Investments กล่าว
“การขยายตัว 4.8% สำหรับปีนี้ดูเหมือนจะเป็นไปได้มากที่สุด นโยบายการเงินอาจจะช่วยได้บ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วการทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายและสร้างความเชื่อมั่นจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับจีน” Wong กล่าวเสริม
ในการสำรวจล่าสุดของ Bloomberg นักเศรษฐศาสตร์ต่างชี้ว่าการบังคับใช้มาตรการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยที่จีนประกาศในเดือนพฤษภาคม เป็นมาตรการที่ได้ผลมากที่สุดสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จนถึงขณะนี้การตอบรับยังค่อนข้างน้อย โดยมีเพียง 29 เมือง จากทั้งหมด 200 เมือง ที่ดำเนินการตามแผนนี้เพื่อจัดการกับปัญหาบ้านล้นตลาด
“การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ 0.10% อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะหยุดการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้” Raymond Yeung หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของจีนจาก ANZ กล่าว
“มันจำเป็นต้องมีมาตรการที่มีผลกระทบมากกว่านี้ การปรับลดการตั้งสำรอง (RRR) การปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อระยะกลาง (Medium-Term Lending Facility) และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีแนวโน้มที่จะประกาศออกมา” Yeung กล่าวเสริม
อ้างอิง:
