วานนี้ (28 เมษายน) คลินิกวิจัยของออสเตรเลียเผยว่าจะเปิดรับอาสาสมัครสำหรับการทดลองวัคซีนสำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัท โคลเวอร์ ไบโอฟาร์มาซูติคอลส์ (Clover Biopharmaceuticals) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ที่จีน
โดยคลินิกวิจัยลีเนียร์ (Linear Clinical Research) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเพิร์ท รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ระบุว่าจะเปิดรับประชาชนวัยผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีสำหรับการทดลองวัคซีนภายใน 2 เดือนข้างหน้า
เจย์เดน โรเจอร์ส (Jayden Rogers) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯ ระบุว่า การทดลองวัคซีนเอส-ทริมเมอร์ (S-Trimer) ได้เผยให้เห็นศักยภาพอันยอดเยี่ยม ทั้งยังอยู่ในระดับแนวหน้าของการต่อสู้โรคโควิด-19 ในระดับโลก
“นี่คือหนึ่งในการทดลองที่น่าจับตามองที่สุดทั่วโลก ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับบรรดาบริษัทวัคซีนที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกด้วย” โรเจอร์สกล่าว
“วัคซีนเอส-ทริมเมอร์ สำหรับโรคโควิด-19 เป็นหนึ่งในโครงการวัคซีนที่น่าตื่นเต้นที่สุดจากทั่วโลกสำหรับสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคในขณะนี้ ทั้งยังมีการผนวกกับงานวิจัยก่อนการทดสอบในมนุษย์ (Preclinical) อย่างกว้างขวาง ตลอดจนมีความสามารถในการผลิตเชิงพาณิชย์”
วัคซีนเอส-ทริมเมอร์ของบริษัทฯ เป็นวัคซีนโรคโควิด-19 รายการแรกๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยมีจุดมุ่งหมายช่วยให้ร่างกายผลิตแอนติบอดี้หรือโปรตีนภูมิคุ้มกันออกมาต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
การทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 จะดำเนินการกับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุในออสเตรเลียที่มีสุขภาพดี ซึ่งได้รับเลือกให้เข้าร่วมการวิจัยเพียงบางส่วน สืบเนื่องจากมีอัตราการติดเชื้อค่อนข้างต่ำ
“เราโชคดีที่เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังมีสถานที่ทดลองทางคลินิกที่ใช้การได้ เนื่องจากมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ของโลก” โรเจอร์สอธิบาย
หากการทดสอบในออสเตรเลียครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะมีการขยายการทดลองให้ครอบคลุมกลุ่มทดลองอีกหลายพันคนทั่วโลก โดยบริษัทฯ ระบุว่าวัคซีนดังกล่าวจะมีให้ใช้อย่างกว้างขวางหลังได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
โจชัวเหลียง หัวหน้าเจ้าหน้าที่แผนกยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ และผู้ร่วมคิดค้นวัคซีนเอส-ทริมเมอร์ ระบุว่าผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากโรคโควิด-19 ทำให้การทดลองทางคลินิกที่ประสบความสำเร็จนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโลก
“ที่ผ่านมาเราทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และหวังว่าจะได้มีส่วนร่วมต่อความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเราทุกคน” เหลียงกล่าว
ในการพัฒนาวัคซีนข้างต้น บรรดานักวิทยาศาสตร์ของบริษัทฯ ได้ขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมนวัตกรรมต่างๆ ของบริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ หรือ จีเอสเค (GlaxoSmithKline-GSK) จากสหราชอาณาจักร บริษัทไดนาวักซ์ (Dynavax) จากสหรัฐฯ และกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (CEPI) จากสวิตเซอร์แลนด์
“การต่อสู้กับโรคโควิด-19 จำเป็นต้องใช้ความพยายามระดับโลกในการหลอมรวมแนวคิดวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมที่ดีที่สุด” โรเจอร์สกล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว