ทางการจีนกำลังเผชิญกับปัญหาเงินหยวนอ่อนค่าลง ขณะที่ธนาคารทั่วโลกมองว่าค่าเงินหยวนอาจร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าประธานาธิบดี Donald Trump แห่งสหรัฐฯ จะดำเนินตามคำขู่เรื่องภาษีศุลกากรต่อไป
จากการคาดการณ์ของธนาคารรายใหญ่และบริษัทวิเคราะห์ 13 แห่ง คาดการณ์ว่าค่าเงินหยวน Offshore ซึ่งเป็นสกุลเงินหยวนที่ใช้กันนอกประเทศจีน อาจอ่อนค่าลงสู่ระดับเฉลี่ย 7.51 หยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จนถึงสิ้นปี 2025 ซึ่งถือเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดของค่าเงินหยวนเท่าที่เคยบันทึกไว้ตามข้อมูลของ LSEG ที่ย้อนหลังไปถึงปี 2004
Trump กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 พฤศจิกายน) ว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% สำหรับสินค้าจีนทั้งหมดที่นำเข้ามาสหรัฐฯ ซึ่งเขาเคยให้คำมั่นว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน 60% หรือสูงกว่านั้นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งของเขา
Jonas Goltermann รองหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดของ Capital Economics กล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น สกุลเงินของประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการค้าใกล้ชิดกับสหรัฐฯ จะเห็นการเคลื่อนไหวของค่าเงินมากที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- นโยบายภาษีของ Trump อาจเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
- เงินหยวนแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 16 เดือน หลังธนาคารกลางจีนผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ค่าเงินหยวน Offshore ลดลงมากกว่า 2% นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และซื้อขายล่าสุดที่ 7.2514 เมื่อวันพฤหัสบดี (28 พฤศจิกายน)
วาระแรกของประธานาธิบดี Trump ในปี 2018 มีการขึ้นภาษีสินค้าจีนของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงประมาณ 5% และเงินหยวนอ่อนค่าลงอีก 1.5% ในปีถัดมา เมื่อความตึงเครียดด้านการค้าทวีความรุนแรงขึ้น
จีนยังคงควบคุมมูลค่าของเงินหยวน Onshore ซึ่งเป็นเงินหยวนที่ใช้กันในประเทศจีนอย่างเข้มงวดด้วยการกำหนดราคารายวัน โดยอนุญาตให้สกุลเงินซื้อขายภายในช่วง 2% ของราคาที่กำหนด ขณะที่เงินหยวน Offshore นั้นขับเคลื่อนโดยตลาดมากกว่า
Ju Wang หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านค่าเงินของจีนแผ่นดินใหญ่จาก BNP Paribas กล่าวว่า ความไม่แน่นอนครั้งนี้สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงวาระแรกของ Trump ในตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากภัยคุกคามจากภาษีศุลกากรและขนาดของความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
Wang กล่าวเสริมว่า การขาดความสม่ำเสมอในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่จะยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนเข้าไปอีก โดยเขาคาดหวังว่าธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PBOC) จะใช้มาตรการต่อต้านภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพื่อป้องกันไม่ให้สกุลเงินของจีนผันผวนเกินระดับสูงสุด
ทางการจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักเพื่อปกป้องค่าเงินหยวนไม่ให้ตกต่ำเกินไป ขณะเดียวกันก็พยายามทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงอาจทำให้กระแสเงินทุนไหลออกมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่ความท้าทายคือธนาคารกลางอาจไม่ต้องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยอยู่แล้ว
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ปรับตัวลดลงหลังจากที่ Trump ประกาศเสนอชื่อ Scott Bessent ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คนต่อไป โดยปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 108.09 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (22 พฤศจิกายน)
แม้ว่า Bessent ผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยงจะสนับสนุนนโยบายภาษีของ Trump แต่เขากลับสนับสนุนแนวทางแบบแทรกแซง ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านการค้า สร้างช่องทางในการเจรจา และท้ายที่สุดก็ควบคุมการไหลออกของเงินหยวนที่มากเกินไป
ภาพ: claffra / Getty Images
อ้างอิง: