วันนี้ (18 ธันวาคม) องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียน ‘มวยไท่จี๋’ หรือ ‘มวยไท้เก๊ก’ ของจีน ลงในรายชื่อมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
มีการประกาศคำตัดสินดังกล่าวระหว่างการประชุมออนไลน์ของคณะกรรมการฯ ระหว่างรัฐบาล เพื่อการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-19 ธันวาคมนี้ ในคิงส์ตัน เมืองหลวงของจาเมกา
มวยไท่จี๋เป็นศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิม ถือกำเนิดช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ในเฉินเจียโกว หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนาน ตอนกลางของจีน ก่อนจะถูกเผยแพร่ไปยังประเทศและภูมิภาคกว่า 150 แห่ง ปัจจุบันหมู่บ้านเฉินเจียโกวมีโรงเรียนสอนมวยไท่จี๋หลายสิบแห่ง และมีอาจารย์มากกว่า 800 คน ดึงดูดผู้สนใจจากทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคนให้เข้ามาฝึกฝน
เหยียนซวงจวิน นักวิจัยของมวยไท่จี๋กล่าวว่า มวยไท่จี๋หาใช่เพียงกีฬาที่ทำให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดี แต่ยังแฝงไปด้วยวัฒนธรรมและปรัชญาจีน
เหยียนซวงจวิน ยังกล่าวอีกว่า เริ่มมีการประยุกต์มวยไท่จี๋ขึ้นในปี 2008 และประสบความเร็จแล้วในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้กีฬาประเภทนี้เข้าถึงสถานที่ต่างๆ ได้มากขึ้น
ด้าน จางชิวผิง เลขาธิการสหพันธ์อู่ซู่ (ศิลปะการป้องกันตัว) กล่าวว่า มวยไท่จี๋เป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ของจีนที่สำคัญที่สุดที่ได้รับการส่งเสริมโดยสหพันธ์อู่ซู่นานาชาติ (International Wushu Federation) การหลอมรวมกีฬาชนิดนี้ให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมศิลปะการป้องกันตัวและมวยไท่จี๋ในระดับโลก
ตั้งแต่ปี 2014 สหพันธ์อู่ซู่นานาชาติได้จัดการแข่งขันชิงแชมป์มวยไท่จี๋ระดับโลก (World Taijiquan Championships) ขึ้นทุกๆ 2 ปี โดยเป็นเวทีสำหรับการสื่อสารและการเรียนรู้ระหว่างเหล่าปรมาจารย์มวยไท่จี๋กับบรรดาผู้หลงใหลมวยไท่จี๋จากทั่วโลก และในเดือนมกราคมปี 2020 มวยไท่จี๋ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในกิจกรรมทางการของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเยาวชนดาการ์ที่จะจัดในปี 2026 ด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว