จีนและรัสเซียออกมาประณามแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นการเผยจุดยืนแบบสงครามเย็นและจักรวรรดินิยม
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เผยยุทธศาสตร์ความมั่นคงฉบับใหม่ พร้อมกล่าวว่า จีนและรัสเซียถือเป็น “คู่แข่งทางอำนาจ” และ “ภัยต่ออิทธิพล คุณค่า และความรุ่งเรืองของอเมริกา
เอกสารยุทธศาสตร์ความยาว 68 หน้า มีการแจกจ่ายต่อผู้สื่อข่าวก่อนที่ทรัมป์จะขึ้นปราศรัย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเนื้อหาฉบับนี้มีการใช้เวลาร่างนาน 11 เดือน ภายใต้แนวคิด ‘อเมริกามาก่อน’
หลังถ้อยแถลงดังกล่าว วานนี้ (19 ธ.ค.) ฮั่ว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ออกมาเตือนสหรัฐฯ ว่า “ควรละทิ้งแนวคิดแบบสงครามเย็นและแนวคิดแบบผู้ชนะกินรวบได้แล้ว”
“จีนจะทำการป้องกันอธิปไตย ความมั่นคง และสิทธิในการพัฒนาของตนเองอย่างเด็ดขาด” โฆษกหญิงกล่าว “ไม่ควรมีใครที่จะมาจินตนาการคาดหวังให้จีนทนกล้ำกลืนต่อสิ่งที่กระทบต่อผลประโยชน์ของพวกเราเอง”
ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ (Dmitry Peskov) เรียกเอกสารฉบับดังกล่าวว่า “มีแนวคิดแบบจักรวรรดินิยมอย่างชัดเจน” และแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลทรัมป์ยืนกรานจะไม่ละทิ้งแนวคิดแบบโลกขั้วเดียวไป
เพสคอฟชี้ว่า รัฐบาลรัสเซียไม่สามารถที่จะยอมรับมุมมองที่มองประเทศของพวกเขาในฐานะภัยคุกคามได้ อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า มีเนื้อหาบางประการในเชิงบวก “โดยเฉพาะความพร้อมที่จะร่วมมือในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องต่อผลประโยชน์อเมริกา”
สำหรับประเด็นระหว่างจีนและสหรัฐฯ จาง ป๋อฮุ่ย (Zhang Baohui) ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยหลิ่งหนาน (Lingnan) ในฮ่องกง กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนได้ตายลงไปแล้ว
ศาสตราจารย์รายนี้มองว่า สหรัฐฯ จะกลับไปสู่จุดมาตรฐานที่มีระหว่างสองประเทศมาก่อนหน้านี้ หลังจากที่ทรัมป์พิจารณาแนวทางสันโดษที่ไปทางเดียวกับนโยบายหาเสียง ‘อเมริกามาก่อน’ ของเขา
“ในตอนนี้ นโยบายต่างประเทศของทรัมป์จะกลับไปสู่แบบมาตรฐานที่สหรัฐฯ แสดงออกในเวทีโลกมาตั้งแต่ปี 1945 ที่จะพยายามรักษาความเป็นหนึ่งและมองมหาอำนาจอื่นในฐานะผู้ท้าทายอำนาจ” ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์จีนกล่าว
Photo: AFP
อ้างอิง: