ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดเผยภายหลังพบปะกับ หวังอี้ (Wang Yi) เจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดด้านการต่างประเทศของจีน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (22 กุมภาพันธ์) ว่ารัสเซียกับจีนได้ยกระดับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นขึ้นไปอีกขั้น และยังพร้อมให้การต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน เพื่อหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านต่างๆ ของทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้นำรัสเซียย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับจีนเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงบนโลกในปัจจุบัน ก่อนฝากคำทักทายไปถึง ‘เพื่อน’ ของตน ซึ่งหมายถึงประธานาธิบดีสีจิ้นผิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รัสเซียบรรลุข้อตกลงจีนใช้เงิน ‘หยวน-รูเบิล’ จ่ายค่าก๊าซ หวังลดใช้เงินดอลลาร์
- เงินหยวน ผงาดขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งสกุลเงินต่างประเทศที่ซื้อ-ขายมากที่สุดในรัสเซีย
- ‘จีน-รัสเซีย’ มูลค่าการค้าในรูป ‘รูเบิล-หยวน’ พุ่งขึ้นกว่า 1,000% นับตั้งแต่เกิดสงคราม
Bloomberg รายงานว่า บรรยากาศการพบปะระหว่างผู้นำรัสเซียกับหวังอี้เป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือใหม่ๆ หลายด้าน รวมถึงความร่วมมือด้านการค้าที่ประธานาธิบดีปูตินระบุว่าจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันที่ 2 แสนล้านดอลลาร์ได้เร็วกว่ากำหนดในปี 2024 ที่วางไว้
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินยังได้แสดงความชื่นชมต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีของสองประเทศ โดยย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีนมีการพัฒนาตามที่ได้วางแผนไว้ โดยมีความคืบหน้าในทุกด้าน และรัสเซียกำลังรอการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง
ด้านหวังอี้ระบุว่า จีนและรัสเซียพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ และแม้ทั้งสองประเทศมักเผชิญวิกฤตการณ์และความวุ่นวาย แต่ในวิกฤตการณ์นั้นก็ทำให้เกิดโอกาสเช่นกัน
นอกจากนี้หวังอี้ชี้ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันค่อนข้างวุ่นวายซับซ้อน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียที่หนักแน่นมั่นคงประหนึ่งภูผา ซึ่งพร้อมเผชิญกับการทดสอบจากสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ของทั้งสองไม่ได้รับแรงกดดันใดๆ จากภายนอก รวมถึงย้ำว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะยังคงมีความมุ่งมั่นร่วมกับรัสเซียในความพยายามที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ในเชิงบวกของทั้งสองฝ่าย
ขณะเดียวกันหวังอี้ยังได้พบปะกับ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergei Lavrov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนมุมมองในหลากหลายประเด็น รวมทั้งความขัดแย้งในยูเครนที่จีนระบุว่าต้องการผลักดันให้เกิดการเจราจาสันติภาพในยูเครน
ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางเยือนรัสเซียของหวังอี้ในครั้งนี้ ยังมีเป้าหมายในการเตรียมการเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ซึ่งจะมีขึ้นในเร็ววันนี้ โดย Wall Street Journal รายงานอ้างแหล่งข่าวนิรนามว่า ผู้นำจีนมีกำหนดเดินทางเยือนรัสเซีย และจะประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
รายงานระบุว่า การพบปะกันของสองผู้นำประเทศดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการจัดการเจรจาสันติภาพเพื่อแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน ขณะที่จีนเน้นย้ำจุดยืนในการหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยการเตรียมการทั้งหมดยังคงอยู่ในขั้นเบื้องต้น ดังนั้นจึงยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับกำหนดเวลาจัดการประชุมที่แน่นอน แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าอาจจะมีขึ้นในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม ที่รัสเซียจะมีการจัดพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะที่มีต่อเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ก่อนหน้านี้ในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2022 ผู้นำรัสเซียกับผู้นำจีนได้สนทนาผ่านระบบวิดีโอลิงก์ ซึ่งครั้งนั้นประธานาธิบดีปูตินได้เชิญให้ประธานาธิบดีสีเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2023 คือระหว่างเดือนมีนาคม-มิถุนายน
ทั้งนี้ หวังอี้ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของจีนที่ได้เดินทางเยือนกรุงมอสโก นับตั้งแต่ที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022
รายงานระบุว่า หวังอี้ยังได้กล่าวหลังพบปะกับ นิโคไล ปาตรูเชฟ (Nikolai Patrushev) เลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 กุมภาพันธ์) โดยทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันที่จะจับมือยืนหยัดร่วมกันในการรับมือกับสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร รวมถึงสนับสนุนระบบพหุภาคีต่อต้านการกลั่นแกล้งรังแก และส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในความสัมพันธ์ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี
ที่ผ่านมาจีนแสดงจุดยืนชัดเจนคัดค้านการบุกยูเครนของรัสเซีย ขณะเดียวกันก็เห็นว่าการบุกยูเครนของรัสเซียเป็นผลจากความพยายามขยายอิทธิพลขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซึ่งเป็นการคุกคามรัสเซีย แต่ก็ยืนยันว่าจีนจะไม่เข้าไปแทรกแซงในกิจการภายในของอีกฝ่ายอย่างเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้ ฉินกัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของจีน ได้พูดคุยผ่านโทรศัพท์กับลาฟรอฟ โดยระบุชัดว่านโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนประกอบไปด้วย ‘3 ไม่’ (Three Nos) คือ ไม่มีการรวมกลุ่ม, ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการหมายหัวบุคคลที่สาม (No Alliance, No Confrontation และ No Targeting of Any Third Party)
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างจีนกับรัสเซียยังมีขึ้นในขณะที่ซีกโลกตะวันตก นำโดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) มองจีนเป็นคู่แข่งเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะมีผลต่อแผนการสนับสนุนแนวทางการค้าพหุภาคีของจีนที่จะมีผลต่อการเติบโตของจีนในระยะยาว
อ้างอิง: