จีนปฏิเสธประณามรัสเซียรุกรานยูเครน ในที่ประชุมรัฐมนตรีคลัง G20

ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ G20 ที่จัดขึ้นที่อินเดียระหว่างวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประสบความล้มเหลวในการออกแถลงการณ์ร่วม หลังจากผู้แทนรัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะร่วมประณามกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน

ทางการจีนชี้แจงว่า จีนไม่เห็นด้วยกับข้อความบางส่วนในแถลงการณ์ร่วมฉบับนั้น พร้อมทั้งระบุว่า จีนไม่ต้องการประณามรัสเซียในแง่ที่รุนแรงเช่นนั้น โดยท่าทีดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากที่รัฐบาลจีนได้ประกาศเน้นย้ำจุดยืนทางการเมืองของตนต่อวิกฤตในยูเครนผ่าน ‘แผนสันติภาพ 12 ข้อ’ ในโอกาสครบรอบ 1 ปี สงครามรัสเซีย-ยูเครน

บทความที่เกี่ยวข้อง:

กางจุดยืน 12 ข้อของจีนเพื่อคลี่คลายวิกฤตในยูเครน มีอะไรบ้าง

แม้รัฐบาลจีนจะประกาศสนับสนุนแนวทางสันติภาพในวิกฤตครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้มีการระบุอย่างชัดเจนว่า รัสเซียจะต้องถอนทัพของตนออกจากยูเครนในทันที หรือร่วมประณามเหตุการณ์รัสเซียรุกรานยูเครนแต่อย่างใด จึงทำให้บรรดาชาติตะวันตกต่างมองว่า แนวทางสันติภาพของจีนนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของรัสเซีย

ทางด้าน อาเจย์ เซ็ต เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลอินเดีย เผยภายหลังการประชุมครั้งนี้ว่า มีเพียงผู้แทนรัฐบาลรัสเซียและจีนเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ขณะที่ผู้แทนอีก 18 ประเทศสมาชิกต่างเห็นพ้องว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเงินโลกอย่างมาก และจำเป็นต้องได้รับการกล่าวถึงในแถลงการณ์ร่วมครั้งนี้

โดยผู้แทนรัสเซียชี้ว่า “บรรดาสมาชิกชาติตะวันตกที่ต่อต้านรัสเซีย กำลังสั่นคลอนความสัมพันธ์ในกลุ่มประเทศ G20” ขณะที่ คริสเตียน ลินด์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเยอรมนีระบุว่า “นี่คือสงคราม และสงครามมีสาเหตุ โดยสาเหตุนั้นก็คือรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน”

ก่อนหน้านี้การประชุมต่างๆ ของกลุ่ม G20 ก็มักจะประสบความล้มเหลวในการออกแถลงการณ์ร่วมกรณีที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตในยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียตัดสินใจรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2022

นอกจากนี้ จีนยังเป็น 1 ใน 32 ประเทศที่ยังคง ‘งดออกเสียง’ ในการลงมติประณามรัสเซีย และเรียกร้องให้รัสเซียเคลื่อนกองกำลังออกจากยูเครนในทันที โดยมีผู้แทนจาก 141 ประเทศ รวมทั้งผู้แทนจากไทยเห็นชอบมติดังกล่าว และมีเพียง 7 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย เบลารุส เกาหลีเหนือ เอริเทรีย มาลี นิการากัว และซีเรีย ที่คัดค้านมตินี้ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ครั้งล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 กุมภาพันธ์)

ภาพ: Manjunath Kiran / AFP

อ้างอิง: