วิกฤตอสังหาจีน จากกรณีที่รัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมเกี่ยวกับการก่อหนี้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากที่บริษัทอสังหายักษ์ใหญ่อย่าง China Evergrande Group รวมถึงบริษัทอสังหารายอื่นๆ ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้
Charlene Chu นักวิเคราะห์อาวุโสของ Autonomous Research หน่วยวิจัยของ Sanford C. Bernstein & Co. คาดการณ์ว่าน่าจะมีบริษัทอสังหาถึง 30 แห่งที่ผิดนัดชำระหนี้ คิดเป็นมูลค่ารวมกันราว 1 ล้านล้านดอลลาร์
“เมื่อธนาคารเริ่มที่จะตีมูลค่าหลักประกันของบริษัทต่างๆ ลดลง ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการผิดนัดชำระหนี้เหล่านี้ และการปรับโครงสร้างหนี้มักจะกินเวลาไม่น้อย”
ขณะที่ความเสี่ยงที่ใหญ่กว่านั้นจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ที่ซื้ออสังหาเริ่มไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดมากขึ้นเมื่ออัตราการว่างงานในจีนสูงขึ้น
“ภาคอสังหาเคยจ้างงานเป็นจำนวนมาก และมีอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันจำนวนมาก เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ในขณะที่อุตสาหกรรมอสังหาแทบจะไม่เติบโต”
นอกจากนี้เราต้องยอมรับว่าจำนวนประชากรจีนกำลังลดลง รวมทั้งประชากรวัยทำงาน ซึ่งส่วนมากจะเป็นกลุ่มที่เป็นลูกค้าหลักของภาคอสังหา โดยประชากรวัยทำงานอยู่ในจุดพีคเมื่อปี 2015 ที่ราว 801 ล้านคน แต่ขณะนี้ได้ลดลงมาแล้วถึง 20 ล้านคน
ทั้งนี้ Chu มองว่า หน่วยงานกำกับกำลังคุมเข้มกับเรื่องนี้และเป็นสิ่งที่ควรจะทำ เพราะด้วยหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นในระบบเศรษฐกิจของจีน ทำให้เรากำลังเข้าสู่ยุคใหม่ซึ่งจะเห็นการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในระดับเลขตัวเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เริ่มน่าเป็นห่วง! วิกฤต China Evergrande ส่อสะเทือนเศรษฐกิจโลก หากปัญหายังลามไม่หยุด
- หวั่น ‘ราคาอสังหาจีน’ ดิ่งหนัก ฉุดเศรษฐกิจจีนมากกว่าล็อกดาวน์ช่วงที่ผ่านมา
- ทั่วโลกเกาะติดวิกฤตอสังหาฯ จีน ขณะที่ทางการเร่งบริหารการสื่อสาร หวังคลายความกังวล-ฟื้นเชื่อมั่น
อ้างอิง: