เมืองต่างๆ ของจีนได้เร่งปูพรมตรวจโควิดให้ประชาชนหลายล้านคน และกลับมาบังคับใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเข้มงวดอีกครั้ง หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายเมือง ซึ่งนับเป็นการพบโควิดแพร่กระจายในประเทศมากที่สุดในรอบหลายเดือน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 สิงหาคม) จีนรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 75 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 53 ราย โดยพบคลัสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับสนามบินหนานจิง ทางตะวันออกของประเทศ และมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้ได้แพร่กระจายไปยังกว่า 20 เมือง และมากกว่า 12 มณฑลแล้วในขณะนี้
ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศจีนกลับมาเพิ่มสูงขึ้น หลังมีการตรวจพบไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่สนามบินหนานจิง ในมณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน ในเดือนกรกฎาคม และแพร่กระจายไปในหลายเมือง ซึ่งการระบาดครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของจีนในรอบหลายเดือน หลังจากที่จีนประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดภายในประเทศเมื่อปีที่แล้ว
โดยขณะนี้เมืองหนานจิงได้ดำเนินการตรวจโควิดจำนวน 3 รอบ ให้กับประชาชน 9.2 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในหนานจิง และสั่งล็อกดาวน์หลายพื้นที่ของเมืองเพื่อควบคุมการระบาด ซึ่งทางการระบุว่า มีสาเหตุมาจากสายพันธุ์เดลตา และช่วงพีกของฤดูกาลท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันทางการจีนยังพยายามติดตามประชาชนมากกว่า 5,000 คนทั่วประเทศที่เข้าร่วมงานเทศกาลละครในจางเจียเจี้ย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวในมณฑลหูหนาน โดยเมืองจางเจียเจี้ยได้ล็อกดาวน์ผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 1.5 ล้านคน และปิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดแล้ว หลังพบนักท่องเที่ยว 4 คนที่มาเที่ยวในงานนี้มีผลตรวจเป็นบวก
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า การระบาดในจางเจียเจี้ยมีต้นตอมาจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากหนานจิง “ตอนนี้จางเจียเจี้ยกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดใหม่ของจีน” จงหนานซาน นักไวรัสวิทยา กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันเสาร์ “เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับสายพันธุ์เดลตา”
ในส่วนของเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่งนั้นมีการรายงานการติดเชื้อภายในประเทศ 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ในย่านชานเมือง และตรวจพบว่าติดเชื้อหลังเดินทางกลับมาจากจางเจียเจี้ย
โดยล่าสุด ปักกิ่งได้ตัดการเดินทางระหว่างเมืองหลวงกับพื้นที่อื่นๆ ที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว ทั้งทางรถไฟ ถนน และอากาศ
นอกจากนี้กรุงปักกิ่งยังประกาศปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อน โดยจะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง และบุคคลนั้นต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบเท่านั้น
ขณะเดียวกันวานนี้มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่บนเกาะไหหลำ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของชาวจีน เช่นเดียวกับมณฑลหนิงเซี่ยและซานตง
ส่วนที่เมืองเจิ้งโจวของมณฑลเหอหนานที่เพิ่งประสบอุทกภัยรุนแรงไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเมื่อวันอาทิตย์มีรายงานพบพนักงานทำความสะอาด 2 คนที่โรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิดมีผลตรวจเป็นบวกหลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ เมืองเจิ้งโจวตรวจพบผู้ป่วยจากการติดเชื้อในประเทศแล้ว 30 คน ส่งผลให้ทางการต้องเร่งตรวจโควิดผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองทั้งหมด 10 ล้านคน ขณะที่หัวหน้าคณะกรรมการสุขภาพของเมืองถูกไล่ออกแล้ว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ในบรรดาผู้ติดเชื้อรอบล่าสุดนี้มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า เรื่องนี้ ‘เป็นเรื่องปกติ’ พร้อมกับเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามมาตรการที่เข้มงวด
“วัคซีนโควิดอาจมีประสิทธิภาพลดลงบ้างในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา แต่ถึงกระนั้นวัคซีนในปัจจุบันก็ยังคงมีฤทธิ์ในการป้องกันสายพันธุ์เดลตา” เฟิงซือเจี้ยน นักไวรัสวิทยาจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน กล่าว
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า จนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้วมากกว่า 1.65 พันล้านโดสทั่วประเทศ แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
ภาพ: Feature China / Barcroft Media via Getty Images
อ้างอิง:
