กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศให้บริษัทสัญชาติเกาหลีเหนือทุกบริษัทและกิจการค้าร่วมในประเทศต้องปิดตัวลงภายในเวลา 120 วัน โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรโสมแดง ภายหลังทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6
อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งรวมถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐานไม่แสวงหาผลกำไรจะได้รับการยกเว้น
เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา UNSC ลงคะแนนผ่านมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือรุนแรงขึ้น รวมถึงระงับการส่งออกสิ่งทอและนำเข้าน้ำมันของเกาหลีเหนือ
มาตรการครั้งล่าสุดถือเป็นความพยายามผ่าน UNSC ครั้งที่ 9 ต่อเกาหลีเหนือในประเด็นการพัฒนาและยิงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์
สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนแจ้งให้ธนาคารต่างๆ ในประเทศระงับบริการปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้าชาวเกาหลีเหนือรายใหม่ และลดเงินกู้สำหรับลูกค้ารายเก่า
จีนถือเป็นประเทศพันธมิตรและคู่ค้าสำคัญของโสมแดง ด้วยยอดนำเข้าสินค้าส่งออกจากเกาหลีเหนือ 90%
แม้จีนจะปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร แต่ไม่ต้องการให้เกิดการล่มสลายขึ้น ด้วยกลัวว่าชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากจะอพยพเข้าประเทศ
ขณะเดียวกัน ช่วงที่ผ่านมาเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกาเปิดฉากสงครามน้ำลายอย่างหนักหน่วง จนทำให้นายรียองโฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือออกมาประกาศว่า สหรัฐฯ ได้ประกาศสงครามแล้ว และเกาหลีเหนือ ‘มีสิทธิ์ทุกประการในการตอบโต้ รวมถึงสิทธิ์ในการยิงเครื่องบินรบสหรัฐฯ แม้ว่าจะไม่บินเหนือน่านฟ้าของประเทศเรา’
คำขู่ดังกล่าวมีขึ้นภายหลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาทวีตข้อความว่า คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ‘จะอยู่ได้อีกไม่นานเท่าไร’ โดยทำเนียบขาวปฏิเสธว่านี่ไม่ใช่การประกาศสงคราม
Photo: AFP
อ้างอิง:
