นักลงทุนรายย่อยในจีนกำลังหันหลังให้กับการลงทุนในกองทุนรวม และเลือกที่จะถือเงินสดไว้มากกว่า
มูลค่ารวมของการระดมทุนของกองทุนต่างๆ ในปีนี้ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ จากข้อมูลของ Z-Ben Advisors บริษัทที่ปรึกษา โดยตัวเลขการระดมทุนดังกล่าวอยู่ที่ราว 1.52 แสนล้านหยวน หรือราว 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับกองทุนใหม่ที่เปิดขายจนถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ลดลงราวครึ่งหนึ่งจากมูลค่าการระดมทุนทั้งปี 2022 และถือเป็นมูลค่าที่ลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ประชาชนต่างลังเลที่จะรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการจ้างงาน และราคาของอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังลดลง ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการจ่ายคืนหนี้และออมเงินเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันดัชนีหุ้นจีนอย่าง CSI300 ให้ผลตอบแทนติดลบติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยที่กองทุนต่างชาติต่างเทขายหุ้นจีนในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในขณะที่กองทุนรวมที่โฟกัสการลงทุนในหุ้น ให้ผลตอบแทนลดลงประมาณ 16% ในปีนี้
ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มูลค่าของเงินออมของชาวจีนแตะระดับสูงสุดใหม่ที่จำนวน 134.6 ล้านล้านหยวน โดยเพิ่มขึ้น 14.7 ล้านล้านหยวนในปีนี้
Wang Lu นักวิเคราะห์ของ Funds Assessment and Research Center ของ Shanghai Securities Co. กล่าวว่า “ผลตอบแทนที่ติดลบต่อเนื่อง 3 ปีของตลาดหุ้น ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก การแก้ปัญหานี้ทำได้อย่างเดียวคือต้องเรียกความเชื่อมั่นของตลาดกลับมา”
อ้างอิง: