Bernard Arnault มหาเศรษฐีนักธุรกิจ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) LVMH เจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton เดินทางเยือนจีนพร้อมลูกสาวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่จีนเปิดประเทศในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยการเยือนครั้งนี้มีขึ้นอย่างประจวบเหมาะกับการที่ยอดขายสินค้าแบรนด์หรูของบริษัทขยับปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
รายงานระบุว่า Arnault ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทขนาดใหญ่ที่เดินทางมาเยือน โดยก่อนหน้านี้บรรดาซีอีโอหลายบริษัทต่างเดินทางตบเท้าเยือนจีนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เช่น Elon Musk ของ Tesls และ Jamie Dimon แห่ง JPMorgan ที่เพิ่งจะไปเยือนจีนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
การเดินทางมาจีนของซีอีโอระดับโลกยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลกรุงปักกิ่ง ในการเดินหน้าเร่งยกระดับกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำธุรกิจทั่วโลก เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในการเติบโตของเศรษฐกิจจีน และรับมือกับการแบ่งแยกกีดกันธุรกิจจีนของรัฐบาลซีกโลกตะวันตก ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ
สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า มีภาพถ่ายของ Arnault เผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจีน ในขณะที่เจ้าตัวเดินอยู่ในห้างหรูแห่งหนึ่งใจกลางกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคารที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา
ด้านนิตยสารธุรกิจ Chijing กล่าวว่า ผู้บริหาร LVMH รายนี้ได้เดินตรวจสอบร้านค้าของแบรนด์หลายแห่งที่ LVMH เป็นเจ้าของ รวมถึง Christian Dior และ Bulgari ในห้างสรรพสินค้า WF Central และ SKP ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยว่า Pietro Beccari ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Louis Vuitton และลูกสาว ซึ่งเป็นหัวหน้าแบรนด์ Christian Dior Couture ร่วมเดินทางไปกับ Arnault ด้วยเช่นกัน โดยมีกำหนดการเข้าร่วมประชุมกับทีมงานระดับท้องถิ่นในหลายเมืองของจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ LVMH รายงานยอดขายไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 17% จากปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดสินค้าหรูหราของจีนจากการลดลงในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิดระบาด พร้อมชี้ว่า การฟื้นตัวค่อนข้างดีในจีนถือเป็นลางดีสำหรับช่วงที่เหลือของปีของ LVMH
ทั้งนี้ แม้ว่าโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของจีนจะหายไปในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แต่การเติบโตของยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยกลับขยับเร่งตัวขึ้น โดยสถิติของทางการจีนในเดือนมิถุนายนพบว่า ยอดค้าปลีกเครื่องประดับทองและเงิน และแบรนด์สินค้าหรู เพิ่มขึ้น 19.5% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2023 จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสินค้าทุกประเภท
ที่ผ่านมาจีนถือเป็นหนึ่งในตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพียงแต่ชะลอตัวลงไปในช่วงโควิด โดย Bain & Company ประมาณการเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนคิดเป็นประมาณ 17% ของตลาดสินค้าหรูหราทั่วโลกในปี 2022 ซึ่งลดลงจาก 35% ในปี 2019 แต่จีนมีแนวโน้มที่จะฟื้นกลับมาเป็นตลาดแบรนด์หรูที่คึกคักอีกครั้งในปีนี้ เห็นได้จากความต้องการบริโภคของชาวจีนที่แสดงให้เห็นการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ จีนเป็นประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคารที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน กล่าวระหว่างงาน World Economic Forum ว่า การตัดสินใจลดความเสี่ยง (De-Risking) ควรทำโดยบริษัทมากกว่ารัฐบาล ซึ่งเป็นความเห็นที่ตอบโต้แนวทางของรัฐบาลชาติตะวันตกที่ชี้ว่าการลดการพึ่งพาจีนเป็นการลดความเสี่ยง โดยหลี่เฉียงย้ำว่า เป็นภาคธุรกิจที่มีความอ่อนไหวมากที่สุดต่อความเสี่ยงดังกล่าว และด้วยเหตุนี้จึงอยู่ในสถานะที่ดีที่สุดในการประเมินความเสี่ยงดังกล่าว ดังนั้นจึงควรให้ธุรกิจสรุปและตัดสินใจเลือกด้วยตนเอง ขณะที่รัฐบาลและองค์กรที่เกี่ยวข้องไม่ควรทำเกินหน้าที่
อ้างอิง:
