ตลาดสินค้าลักชัวรีจีนฟื้นแล้ว! หลังพิษโควิดฉุดการเติบโตมากว่า 5 ปี เริ่มจากกลุ่มนาฬิกาหรู เครื่องหนัง เครื่องประดับ ยอดขายเริ่มฟื้นตัว ส่วนตลาดนาฬิกา-แฟชั่นยอดขายลดลง ‘LVMH’ เร่งขยายสาขารองรับกำลังซื้อชาวจีนที่อัดอั้นมานาน คาดปี 2023 ตลาดกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จีนยังเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มสินค้าประเภทลักชัวรี แต่ในปี 2022 ยอดขายตลาดสินค้าลักชัวรีหดตัวลง 10% และไม่มีอัตราการเติบโตมาเป็นระยะ 5 ปี โดยปัจจัยหลักมาจากผลกระทบโควิด การปิดเมือง และภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับต้นทุนสินค้าปรับตัวขึ้น ทำให้ราคาสินค้า เช่น นาฬิกา และกระเป๋า แพงขึ้น ทำให้ผู้คนต้องชะลอการใช้จ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ปารีส อาจต้องรอก่อน! นักวิเคราะห์มองชาวจีนอาจไม่ได้พุ่งไปยุโรปเพื่อซื้อสินค้าหรูหลังเปิดประเทศมากอย่างที่คิด จับตา ‘ไหหลำ’ เขตปลอดภาษีมาแรง
- 7 Things We Love About LVMH เบื้องหลังบริษัทแฟชั่นและลักชัวรีเบอร์หนึ่งของโลก
- เจาะชีวิต ‘เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์’ ผู้ปกครองอาณาจักรลักชัวรี ‘LVMH’ ที่กลายเป็นบุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดของโลกคนใหม่แทนที่ อีลอน มัสก์
ขณะเดียวกันหลังจีนเปิดประเทศ สินค้าจำพวกนาฬิกาหรู เครื่องหนัง เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เริ่มได้รับความนิยมอีกครั้ง และมียอดขายเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มสินค้านาฬิกา ตามด้วยกลุ่มแฟชั่น ยอดขายลดลงประมาณ 20-25% นั่นอาจเป็นเพราะชาวจีนบางกลุ่มเริ่มเดินทางออกไปจับจ่ายสินค้าหรูในประเทศอื่นๆ
Bernard Arnault ซีอีโอของ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton หรือ LVMH บริษัทจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าลักชัวรีชั้นนำทั่วโลก กล่าวว่า คนจีนมีการจับจ่ายสินค้าระดับไฮเอนด์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% เนื่องจากมีความอัดอั้นในช่วงโควิด ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยถ้าเทียบกับผู้บริโภคภายในประเทศจีน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดให้เติบโตได้ภายในปี 2023
สำหรับ LVMH ที่ผ่านมาได้ขยายร้านค้าในเอเชีย รวมถึงจีน ยกเว้นญี่ปุ่น ไปกว่า 20% เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ยอดขายกลับมาเติบโตมากกว่าช่วงก่อนโควิด
ด้าน Bruno Lannes หุ้นส่วนอาวุโสของ Bain & Company ในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า แบรนด์สินค้าลักชัวรีที่จะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีได้จะต้องมีพอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งกว่าคู่แข่งในตลาด รวมถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับฐานลูกค้า
และต้องยอมรับว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีในมณฑลไหหลำมีส่วนทำให้ตลาดสินค้าลักชัวรีของจีนเฟื่องฟู แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิดขึ้น ยอดขายสินค้าปลอดภาษีในมณฑลไหหลำก็ปรับลดลงราว 30%
อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบกับตลาดลักชัวรีในประเทศอื่นๆ จีนเป็นประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะมีผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลางไปจนถึงระดับสูงมากขึ้น และคาดว่าประชากรดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายในปี 2030
อ้างอิง: