จีนเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบทางทหารรอบเกาะไต้หวันภายใต้รหัส ‘Justice Mission 2025’ เมื่อวานนี้ (29 ธันวาคม) โดยรูปแบบการซ้อมรบ เป็นการระดมกำลังจากทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองกำลังจรวด เพื่อจำลองสถานการณ์การ ‘ยึดและปิดล้อม’ พื้นที่สำคัญของไต้หวัน รวมไปถึงการซ้อมยิงกระสุนจริง
กองทัพจีนระบุว่า วัตถุประสงค์ของการซ้อมรบครั้งนี้คือ การเตือน ‘กลุ่มกองกำลังแบ่งแยกดินแดน’ และเปรียบปฏิบัติการนี้ว่าเป็น ‘เกราะแห่งความยุติธรรม’ (Shield of Justice) ที่จะทำลายผู้ที่วางแผนประกาศเอกราช โดยการซ้อมรบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกภายใต้การนำของ หยางจื้อปิน (Yang Zhibin) ผู้บัญชาการคนใหม่ของกองบัญชาการภาคตะวันออก
ส่วนสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นความตึงเครียดระลอกนี้ เกิดขึ้นจากการตอบโต้ทางการเมืองและการทหาร หลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศขายอาวุธล็อตใหญ่ให้ไต้หวันมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.6 แสนล้านบาท) ซึ่งทำให้จีนไม่พอใจอย่างมากและประกาศคว่ำบาตรบริษัทกลาโหมของสหรัฐฯ
อีกทั้งจีนยังมองว่า ท่าทีของ ไล่ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน เป็น ‘พวกแบ่งแยกดินแดน’ โดยจีนกล่าวหาว่า เขากำลังแสวงหาเอกราช ในขณะที่ไล่ยืนยันว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่มีอธิปไตยอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องประกาศเอกราชอีก
ทางด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันตรวจพบเครื่องบินทหารจีน 89 ลำ และเรือรบ 28 ลำรอบเกาะ โดยไต้หวันได้ยกระดับการเฝ้าระวังขั้นสูง (High Alert) และส่งกองกำลังพร้อมระบบขีปนาวุธเข้าประจำการ เพื่อปกป้องประชาชน ก่อนหน้านี้ไต้หวันก็ได้จัดซ้อมรบประจำปี ‘Han Kuang’ ครั้งใหญ่ที่สุด เพื่อเตรียมรับมือการโจมตีเช่นกัน
การซ้อมรบของจีน ส่งผลให้ต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางบินทั้งในและระหว่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่อันตราย ซึ่งกระทบผู้โดยสารกว่า 100,000 คน
ไล่ระบุว่า รัฐบาลของเขายึดมั่นใน ‘การรักษาสถานะปัจจุบัน’ (Status Quo) และจะไม่ยั่วยุจีน แต่จำเป็นต้องสร้างความแข็งแกร่ง เพื่อเพิ่ม ‘ต้นทุน’ หรือเพิ่มความยากลำบากให้แก่จีน หากจีนคิดจะบุก
ภาพ: Eastern Theatre Command / Handout via Reuters
อ้างอิง:


