×

จีนเผชิญวิกฤตการทูต หลังมีรายงานชาวแอฟริกันในจีนถูกเลือกปฏิบัติ จากมาตรการป้องกันโควิด-19

โดย Master Peace
14.04.2020
  • LOADING...

รัฐบาลจีนกำลังเผชิญวิกฤตทางการทูตและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากหลายประเทศในทวีปแอฟริกา หลังมีรายงานและคลิปวิดีโอเหตุการณ์กรณีการเลือกปฏิบัติและแบ่งแยกเชื้อชาติ กรณีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโรคโควิด-19 โดยพุ่งเป้าประชาชนผิวสีจากชาติแอฟริกันที่พำนักอยู่ในจีน 

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักศึกษาและพลเรือนจากชาติแอฟริกันหลายคนในเมืองกว่างโจว ทางตอนใต้ของจีน เปิดเผยว่าพวกเขาตกเป็นเป้าหมายถูกบังคับให้รับการตรวจหาโควิด-19 และกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน โดยปราศจากการสอบถามความยินยอมหรือสมัครใจ และไม่สนใจประวัติการเดินทางใดๆ เนื่องจากความกังวลของทางการและประชาชนชาวจีน ที่มีต่อกรณีผู้ติดเชื้อจากต่างชาติ

 

ชาวแอฟริกันในจีนจำนวนมากเผยแพร่ทั้งคลิปวิดีโอและข้อความผ่านสื่อท้องถิ่นในบ้านเกิดและโซเชียลมีเดีย บอกว่าพวกเขาต้องไร้ที่อาศัย เพราะถูกเจ้าของที่พักไล่ออกมา และไม่มีโรงแรมใดภายในเมืองต้อนรับ หลายคนต้องนอนริมถนนและใช้ชีวิตด้วยความลำบาก

 

เซี่ยงไฮ้อิสต์ สำนักข่าวออนไลน์ของจีน เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เป็นภาพชายชาวแอฟริกันคนหนึ่ง ถูกขังอยู่ในอพาร์ตเมนต์ พร้อมกับครอบครัว ทั้งภรรยาและลูกที่ยังเล็ก โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นคำสั่งของรัฐบาลเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่เขาตะโกนถามว่าเขาจะเอาอาหารและน้ำ และสิ่งของจำเป็นสำหรับทารกจากที่ไหน

 

“ทำไมเพื่อนบ้านของผมออกไปได้ แต่ผมออกไปไม่ได้ แม้แต่จะซื้ออาหาร ผมมีทารกนะ” ชายแอฟริกันดังกล่าวตะโกนถามเจ้าหน้าที่

 

ขณะที่หญิงชาวเคนยาคนหนึ่งที่อาศัยในกรุงปักกิ่ง ก็เผชิญปัญหาที่มองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เธอถูกไล่ออกจากอพาร์ตเมนต์ และยังไม่สามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินได้ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่อนุญาต ทำให้เธอต้องเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านสถานีโทรทัศน์ Citizen TV Kenya

 

ท่าทีเลือกปฏิบัติ โดยพุ่งเป้าชาวแอฟริกันในจีนดังกล่าว เกิดขึ้นในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และถูกมองว่าเป็นผลจากความกังวลที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในจีนเริ่มกลับมาสูงแตะหลักร้อยอีกครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 

 

ในแอฟริกา รัฐบาล สื่อมวลชน และประชาชนจำนวนมาก ต่างแสดงท่าทีไม่พอใจต่อกระแสการแบ่งแยกเชื้อชาตินี้ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11 เมษายน) หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ใหญ่ที่สุดของเคนยา พาดหัวข่าวว่า ‘ชาวเคนยาในจีน: ช่วยพวกเราจากนรก’ ขณะที่สมาชิกรัฐสภาเคนยาเรียกร้องให้ชาวจีนรีบออกไปจากเคนยาทันที 

 

ข่าวการแบ่งแยกเชื้อชาติดังกล่าวยังปรากฏทั้งในยูกันดา แอฟริกาใต้ และไนจีเรีย กระแสความไม่พอใจที่แพร่ลามเป็นวงกว้าง ส่อแววบั่นทอนความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและชาติแอฟริกาที่จีนพยายามสร้างมายาวนาน

 

ช่วงหลายปีมานี้ ประเทศในทวีปแอฟริกาถือเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนทางการทูตและคู่ค้าที่สำคัญต่อปักกิ่ง โดยมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับชาติแอฟริกาปีที่ผ่านมานั้นสูงกว่า 208,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ทางด้าน จ้าวลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีการเลือกปฏิบัติและแบ่งแยกเชื้อชาติชาวแอฟริกัน โดยปฏิเสธว่าจีนไม่เคยเพ่งเล็งชาวต่างชาติในการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 และยืนยันการปฏิบัติต่อชาวต่างชาติที่อยู่ในจีนทุกคนอย่างเสมอภาค

 

“เรายังคงเผชิญความเสี่ยงที่ร้ายแรงต่อกรณีการติดเชื้อจากต่างประเทศและในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อการระบาดแพร่กระจายไปทั่วโลก กรณีผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ จะยิ่งทำให้เกิดแรงกดดันมากขึ้น

 

“ชาวต่างชาติทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เราปฏิเสธเรื่องการปฏิบัติที่แตกต่างกัน และเราจะไม่อดทนต่อการเลือกปฏิบัติ” จ้าว กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม CNN รายงานว่าล่าสุด ชาวแอฟริกันในกว่างโจวที่ต้องไร้ที่อาศัย ส่วนใหญ่มีที่พักชั่วคราวแล้ว โดยกองทัพอาสาสมัครชาวจีนที่รวมตัวกันผ่านแอปพลิเคชัน WeChat ช่วยกันประสานขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าของอพาร์ตเมนต์และโรงแรมที่ยังยินดีต้อนรับชาวต่างชาติ ขณะที่มีชาวแอฟริกันหลายคนถูกทางการท้องถิ่นนำไปกักตัวในโรงแรมที่ทางการกำหนดไว้

 

“พวกเขา (ทางการจีน) ไม่ต้องการให้ชาวแอฟริกันอาศัยอยู่ตามถนน” หนึ่งในอาสาสมัครกล่าว

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์ 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising