มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนตุลาคมของจีนหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี จากอุปสงค์โลกที่ชะลอตัวลงตามความเสี่ยงการเข้าสู่ภาวะถดถอยที่เพิ่มสูงขึ้น
ข้อมูลจาก Refinitiv Eikon ระบุว่า ตัวเลขการส่งออกสินค้าของจีนในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาหดตัวลง 0.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อแปลงเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่มองว่าการส่งออกของจีนจะขยายตัวได้ที่ 4.5% ค่อนข้างมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สรุป 5 ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญ จากสุนทรพจน์ ‘สีจิ้นผิง’ เปิดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน
- จริงหรือที่ ‘อินเดีย’ กำลังจะเป็นโรงงานของโลกแห่งใหม่ต่อจากจีน? ถึงขั้นที่การผลิต 1 ใน 4 ของ ‘iPhone’ จะย้ายมาที่นี่ภายในปี 2025
- บริษัทเทคฯ ชั้นนำระดับโลกมุ่งลงทุนในเวียดนาม หลังจีนไร้วี่แววคลายนโยบาย Zero-COVID
ขณะที่การนำเข้าสินค้าของจีนในเดือนตุลาคมก็หดตัวลง 0.7% เช่นกัน ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับจากเดือนสิงหาคมปี 2020 และต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่มองว่าการนำเข้าของจีนจะขยายตัวได้ที่ 0.1%
ทั้งนี้ คู่ค้าอันดับหนึ่งของจีนยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา โดยในเดือนตุลาคมการส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ ขยายตัวได้เพียง 8.4% ลดลงจากเดือนกันยายนที่ขยายตัวได้ 10.1% ส่วนการนำเข้าจากสหรัฐฯ ในเดือนที่ผ่านมาเติบโตขึ้น 1.7% สูงกว่าระดับ 1.3% ในเดือนกันยายน
สัปดาห์ที่ผ่านมา Barclays สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ได้ปรับลดประมาณการ GDP ของจีนในปีนี้ลงจาก 4.5% เหลือ 3.8% พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการส่งออกจีนในปีนี้ลงจาก 7% เหลือ 5% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศ EU
อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากกรมศุลกากรของจีนยังระบุว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าของจีนในเดือนตุลาคมเมื่อคิดเป็นสกุลเงินหยวนยังคงขยายตัวที่ 7% ขณะที่การนำเข้าขยายตัวที่ 6.8% โดยในเดือนที่ผ่านมา เงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ถึง 3%
อ้างอิง: