โฆษก สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่โพสต์ข้อความ ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีความคิดเห็นของทางสถานเอกอัครราชทูตจีน ต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เหตุการณ์อาคารถล่ม ซึ่งบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วมในการก่อสร้าง ภายใต้กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย)
โดยโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีน ระบุว่า “กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณชน ยืนยันว่า การจัดซื้อวัสดุและการก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้ดำเนินการตามข้อกำหนดในสัญญาโครงการ (ToR) กฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานทางวิศวกรรม และหลักปฏิบัติทางวิศวกรรมที่ดีอย่างเคร่งครัด เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของโครงการ
“ขณะที่กลุ่มกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย)ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับรัฐบาลไทยในการสอบสวน และเชื่อว่าผลการสอบสวนจะให้ข้อสรุปที่เป็นวิทยาศาสตร์และยุติธรรม”
ทั้งนี้ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีน ชี้ว่าความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างจีน-ไทยมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาของทั้งสองประเทศ และนำความสุขมาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ
ซึ่งความร่วมมือด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นส่วนสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย เมื่อไม่นานมานี้ อาคารที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) มีส่วนร่วมในการก่อสร้างนั้น ได้ถล่มเนื่องจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้ได้รับการจับตามองอย่างกว้างขวางจากสังคมไทย และรัฐบาลไทยกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการถล่มดังกล่าว
ช่วงท้ายของโพสต์ข้อความระบุว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทจีนจำนวนมากได้ตอบรับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของไทย และเข้ามาลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งได้นำมาซึ่งโอกาสการจ้างงานหลายแสนตำแหน่ง ฝึกอบรมบุคลากรด้านเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นจำนวนมาก และมีส่วนสนับสนุนอย่างสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและสร้างรายได้ภาษีกับประเทศไทย”
โดยโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนระบุว่า “บริษัทจีนเหล่านี้ยังมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแข็งขัน ทั้งในด้านการช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติและดำเนินกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ทางสังคม”
ขณะที่ยืนยันว่า “ฝ่ายจีนสนับสนุนให้มีการตรวจสอบและดำเนินคดีกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของบางบริษัทตามกฎหมาย แต่ก็คัดค้านการใส่ร้ายป้ายสีและบิดเบือนข้อเท็จจริงกับบริษัทจีน”
อ้างอิง:
- Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย / Facebook