จีนระงับการนำเข้าเนื้อวัว ผลิตภัณฑ์นม และเบียร์จากลิทัวเนีย ท่ามกลางความขัดแย้งที่ร้าวลึกขึ้นจากกรณีที่ลิทัวเนียสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน
สำนักงานอาหารและอนามัยสัตว์แห่งลิทัวเนียเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า กรมศุลกากรของจีนสั่งระงับสินค้าดังกล่าวของลิทัวเนีย โดยให้เหตุผลว่า ‘ขาดเอกสาร’ อย่างไรก็ดี “จนถึงขณะนี้ลิทัวเนียยังไม่ได้รับแจ้งจากทางการจีนว่าเอกสารข้อมูลใดที่ขาดหายไป” และจีนไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเหตุใดจึงระงับการนำเข้าสินค้าเหล่านี้
ทางหน่วยงานยังเปิดเผยด้วยว่า ทางการจีนได้ดำเนินการตรวจประเมินระยะไกล (Remote Audit) ผู้ส่งออกเนื้อวัวและผลิตภัณฑ์ปลาของลิทัวเนียในปี 2020 ซึ่งที่ผ่านมาลิทัวเนียไม่เคยได้รับการร้องเรียนใดๆ และการส่งออกยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่นจนถึงสิ้นปีที่แล้ว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนเกิดขึ้นหลังจากลิทัวเนียอนุญาตให้ไต้หวันเปิดสำนักงานตัวแทน หรือก็คือสถานทูตโดยพฤตินัย ณ กรุงวิลนีอัส เมืองหลวงของลิทัวเนีย เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา อีกทั้งสำนักงานตัวแทนแห่งนี้ยังใช้ชื่อว่าไต้หวัน แทนที่จะเป็น ‘ไชนีสไทเป’ ซึ่งเป็นชื่อที่หลายประเทศใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความขัดแย้งกับจีน
เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับจีนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ปักกิ่งงัดมาตรการตอบโต้ด้วยการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับลิทัวเนียในอีกไม่กี่วันถัดมา และดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัฐบอลติกแห่งนี้เริ่มย่ำแย่ลงนับตั้งแต่นั้น
รัฐบาลปักกิ่งถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน โดยในปีที่ผ่านมาปักกิ่งได้เพิ่มแรงกดดันเพื่อโดดเดี่ยวไต้หวันออกจากบรรดาชาติพันธมิตร
ทั้งนี้คาดว่าความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนอาจผลักดันให้สหภาพยุโรป (EU) ยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อองค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่จีนเลือกปฏิบัติทางการค้าต่อลิทัวเนีย ซึ่งเป็นสมาชิกของ EU
ก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแคนาดา ได้แสดงการสนับสนุนสหภาพยุโรปในการยื่นคำร้องดังกล่าว โดยระบุว่า จีนมีพฤติกรรมทางการค้าที่เลือกปฏิบัติต่อลิทัวเนีย ซึ่งรวมถึงการกดดันให้ธุรกิจในยุโรปตัดลิทัวเนียออกจากห่วงโซ่อุปทาน
แม้ว่าจีนเป็นผู้นำเข้าเนื้อวัวรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่จีนนำเข้าเนื้อวัวจากลิทัวเนียน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณนำเข้าทั้งหมด โดยข้อมูลศุลกากรจีนเผยว่า ในปีที่แล้วจีนนำเข้าเนื้อวัว 775 ตันจากลิทัวเนีย จากการนำเข้าเนื้อวัวทั้งหมด 2.36 ล้านตัน
ภาพ: Justin Sullivan / Getty Images
อ้างอิง: