สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า วิกฤตการณ์ในตลาดพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์สำหรับอสังหาริมทรัพย์ของจีนรุนแรง ถึงขนาดที่นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญในตลาดนี้มาตั้งแต่ที่เริ่มมีการออกพันธบัตรในปี 2005 ถึงกับกล่าวออกมาอย่างจนปัญญาว่า การวิเคราะห์ที่มีความหมายสำหรับบอนด์อสังหาริมทรัพย์จีนเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
Zhi Wei Feng นักวิเคราะห์อาวุโสของ Loomis Sayles Investments Asia Pte ซึ่งเคยทำงานเกี่ยวกับการวิจัยสินเชื่อที่ Barclays Capital ในปี 2005 ซึ่งเป็นปีที่มีการออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนเป็นครั้งแรก กล่าวว่า แนวทางการลงทุนที่วิเคราะห์ได้หมายความว่า ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะคาดการณ์นำหน้าตลาดไปในทางลบได้ แต่สำหรับสถานการณ์ตลาดบอนด์อสังหาริมทรัพย์จีนในตอนนี้กลับไม่อยู่ในสภาวะที่จะวิเคราะห์อะไรได้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผู้ซื้อบ้านชาวจีนกลับลำ เร่งชำระคืนเงินกู้ที่อยู่อาศัยล่วงหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
- ‘จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ ดันสกุลเงินกลุ่ม BRICS เป็นทางเลือกชำระเงิน หวังคานอำนาจดอลลาร์สหรัฐ
- 10 กองทุนหุ้นจีน ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน แกร่งสุด
รายงานระบุว่า บอนด์อสังหาริมทรัพย์นอกประเทศจีนร่วงลงแตะระดับต่ำสุด สะท้อนถึงความสาหัสของตลาดได้เป็นอย่างดี โดยปริมาณการผิดนัดชำระหนี้อยู่ในระดับที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน ซึ่งวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีนเริ่มส่งสัญญาณเลวร้ายมาตั้งแต่ปี 2020 ที่รัฐบาลหันมาดำเนินนโยบายคุมเข้มตลาด หลังมีบรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์มากเกินดีมานด์ในตลาด บวกกับการที่บรรดาผู้ซื้อบ้านหันมาซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรมากขึ้น และสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อจีนต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์เพราะมาตรการ Zero-COVID ฉุดให้ยอดขายบ้านร่วงลงอย่างหนัก
ทั้งนี้ มูลค่าตลาดของพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนลดลงประมาณ 23% ในเดือนที่ผ่านมา เทียบกับการลดลง 7% สำหรับดัชนีพันธบัตร Bloomberg USD China IG
Feng อธิบายว่า การวิเคราะห์พื้นฐานของภาคธุรกิจและการดำเนินงานของบริษัทและตัวเลขทางการเงิน ได้เปิดช่องทางให้ตลาดมีหนทางวิเคราะห์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุน ยิ่งเมื่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนมีแนวโน้มผิดนัดชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง สถานการณ์ดังกล่าวจึงเลวร้ายยิ่งกว่า Junk Bond เสียอีก
ราคาบอนด์ที่ให้ผลตอบแทนสูงในจีนซึ่งส่วนใหญ่ออกโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50.2 เซนต์ในสัปดาห์นี้
Feng กล่าว่า ราคาดังกล่าวไม่สมเหตุสมผลสำหรับตลาดปกติใดๆ แต่เป็นราคาที่สมเหตุสมผลสำหรับตลาดที่อยู่เหนือการวิเคราะห์ และตลาดไม่เพียงกลับไปเผชิญหน้ากับความเสี่ยงด้านนโยบายเท่านั้น เหล่านักลงทุนยังสูญเสียความมั่นใจทั้งหมดต่อบริษัทและตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนโดยรวมอีกด้วย
ขณะเดียวกัน Bloomberg รายงานเพิ่มว่า บรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์เวียดนามต่างประสบปัญหาในการยื่นเรื่องขอกู้เงิน หรือออกตราสารหนี้ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา หลังก่อนหน้า รัฐมนตรีการก่อสร้างของเวียดนาม Nguyen Thanh Nghi เรียกร้องให้ตรวจสอบกิจกรรมการระดมทุนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหุ้นและการออกตราสารหนี้ เพื่อยับยั้งการเก็งกำไรและการปรับราคาให้สูงขึ้น
ขณะเดียวกันทางธนาคารกลางเวียดยามก็ตอบรับต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว และเห็นถึงความจำเป็นในการเข้าไปควบคุมราคาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศโดยหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยเน้นไปที่การควบคุมเงินเฟ้อและรักษาความปลอดภัยของระบบสินเชื่อของประเทศ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังทางการเวียดนามสั่งจับกุม Truong My Lan ประธานกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ Van Thinh Phat Holdings Group เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา และขยายผลไปสู่การจับกุมเจ้าหน้าที่ของบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกและซื้อขายพันธบัตรด้วยเงินหลายล้านล้านที่มีที่ไปไม่ชัดเจน
การสืบสวนได้จุดชนวนให้ชาวเวียดนามหลายร้อยคนแห่ไป Saigon Commercial Bank ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ เพื่อถอนเงินออม หลังมีข่าวลือที่ว่าธนาคารมีสินทรัพย์ผูกติดอยู่กับ Van Thinh Phat
อ้างอิง: