เว็บไซต์ข่าว Global Times ของทางการจีนรายงานโดยอ้างอิงความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งว่า การเดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างดี และการที่ผู้นำสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ที่ลงนามร่วมกัน แสดงให้เห็นว่าความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ยังคงแข็งแกร่ง และจะยังให้ประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสองประเทศในทุกด้าน รวมถึงเป็นการส่งเสริมสันติภาพและการปรับปรุงธรรมาภิบาลของโลก
ความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ผู้นำจีนเดินทางกลับถึงกรุงปักกิ่งในเย็นวันพุธ (22 มีนาคม) หลังเสร็จสิ้นการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ
ในส่วนของประเด็นวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน จีนและรัสเซียบรรลุฉันทามติที่สำคัญบางประการ รวมถึงการตกลงว่าจะต้องปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและต้องเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า ฉันทามติระหว่างทั้งสองประเทศได้วางรากฐานเพื่อเริ่มต้นกระบวนการสันติภาพที่มีศักยภาพ และจีนจะมีส่วนร่วมกับสมาชิกหลักคนอื่นๆ ของประชาคมระหว่างประเทศและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจาไกล่เกลี่ยต่อไป
ก่อนหน้านี้หลังการพบปะหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย สีจิ้นผิงได้กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวร่วมเมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคมว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียไปไกลเกินขอบเขตทวิภาคี และมีความสำคัญต่อโลกและอนาคตของมนุษยชาติ
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงระหว่างมหาอำนาจทั้งสอง ทำให้โลกมีเสถียรภาพ และสามารถเสริมสร้างและสร้างสมดุลทางอำนาจระหว่างประเทศสำคัญที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนกระทบต่อสันติภาพโดยทั่วไปของโลก
Andrey Kortunov ผู้อำนวยการทั่วไปของสภากิจการระหว่างประเทศของรัสเซีย กล่าวว่า การประชุมทุกครั้งระหว่างผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศเป็นตัวกระตุ้นที่สามารถเร่งความร่วมมือ และเป็นการส่งสัญญาณที่ทรงพลังถึงข้าราชการ นักการทูต ภาคเอกชน สถาบันภาคประชาสังคม และภาคส่วนสำคัญอื่นๆ ว่าควรเร่งสร้างปฏิสัมพันธ์และนำความร่วมมือไปสู่ระดับใหม่
ด้าน Li Haidong ศาสตราจารย์แห่งสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัย China Foreign Affairs กล่าวว่า นอกเหนือจากการชี้นำการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว จีนยังแสดงบทบาทความรับผิดชอบในฐานะประเทศมหาอำนาจในการประสานงานกับประเทศอื่นๆ เพื่อรับมือกับประเด็นที่ทั่วโลกกังวล
Li ชี้ว่ากุญแจสำคัญสำหรับวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างมีประสิทธิภาพคือ การที่ประเทศมหาอำนาจสามารถประสานงานซึ่งกันและกันและแก้ปัญหาผ่านการประสานงาน ซึ่งในปัจจุบันไม่มีประเทศใหญ่อื่นใดเช่นจีนที่สามารถทำหน้าที่นี้ได้
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอีกส่วนหนึ่งกล่าวว่า จีนจะประสานงานกับพันธมิตรจำนวนมากขึ้นทั่วโลกเพื่อไกล่เกลี่ยวิกฤตยูเครน หลังจากบรรลุฉันทามติกับรัสเซียแล้ว โดยจีนจะเข้าร่วมกับประเทศมหาอำนาจอื่นๆ ที่มีอิทธิพลสำคัญ เช่น บราซิล และฝรั่งเศส และจะติดต่อกับยูเครน รวมถึงอาจขอคำแนะนำจากฝ่ายที่เป็นกลางสำคัญอื่นๆ เช่น อินเดีย และตุรกี เพื่อสร้างรากฐานสำหรับกระบวนการหยุดยิงและสันติภาพที่มีฉันทามติระหว่างประเทศร่วมกัน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นหากสหรัฐฯ ยังคงต่อต้านการหยุดยิง โลกจะได้เห็นชัดเจนว่าใครยืนอยู่ข้างสันติภาพ และใครยืนหยัดต่อต้านประชาคมระหว่างประเทศส่วนใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สรุป 5 ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญ จากสุนทรพจน์ ‘สีจิ้นผิง’ เปิดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน
- ส่องรายชื่อ ‘5 แคนดิเดต’ ที่จะก้าวขึ้นมากุมบังเหียนเศรษฐกิจของพญามังกรในยุค ‘สี 3.0’
- จีนยกแผน GDI ของ ‘สีจิ้นผิง’ ขึ้นหิ้งตัวอย่างการมีส่วนร่วมรับมือความท้าทายระดับโลก
อ้างอิง: