จีนนำเรือบรรทุกเครื่องบินที่สร้างเองทั้งหมดลำแรกออกทดสอบแล่นในทะเลเมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) นับเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ของจีนต่อจาก ‘เหลียวหนิง’ โดยลำแรกจีนซื้อซากเรือสมัยสหภาพโซเวียตจากยูเครนมาทำการบูรณะใหม่ ส่วนลำที่ 2 คาดว่าจะเข้าประจำการในกองทัพเรือภายในปี 2020 ด้วยเป้าหมายของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่จะยกระดับจีนให้เป็นประเทศมหาอำนาจทางทะเล
เรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 มีน้ำหนักราว 50,000 ตัน มีชื่อชั่วคราวว่า Type 001A ถูกปล่อยออกจากอู่แห้งในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง เร็วกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และได้แล่นออกจากท่าเทียบเรือเพื่อทดสอบระบบเดินเรือเมื่อเวลาประมาณ 7.00 น. วานนี้
เรือลำนี้มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเรือเหลียวหนิง ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นแอดมิรัล คุซเนตซอฟ คู่แฝดเรือบรรทุกเครื่องบินสมัยโซเวียตที่รัสเซียยังคงใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่แตกต่างตรงหอบังคับการหรือสะพานเดินเรือที่มีขนาดเล็กกว่า
การสร้างกองเรือบรรทุกเครื่องบินให้มีความเกรียงไกรถูกมองเป็นความทะเยอทะยานของจีนในการยกระดับกองทัพเรือให้ทันสมัย โดยสีจิ้นผิงเคยประกาศไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าเขาต้องการให้กองทัพเรือเป็นกองทัพระดับโลก
ด้านผู้เชี่ยวชาญมองว่า ถึงแม้เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่จะทำให้ดุลอำนาจทางทหารในบริเวณเอเชียเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ แต่เทคโนโลยีของจีนยังคงล้าหลังประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ อยู่มาก
แซม รอจเกวีน นักวิชาการแห่งสถาบัน Lowy Institute ในซิดนีย์ กล่าวว่า “เรือลำนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อท้าทายอำนาจของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย เพราะมันไม่ใช่เรือบรรทุกเครื่องบินที่สามารถเทียบชั้นกับเรือของสหรัฐฯ”
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นตรงกันว่าเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 จะมีความทันสมัยกว่าเหลียวหนิง นอกจากนี้ยังมีขนาดใหญ่กว่า ดังนั้นจึงสามารถจอดเครื่องบินได้มากกว่า
ส่วนข้อมูลอื่นๆ ตามที่สื่อจีนระบุนั้น เรือลำนี้มีความยาวประมาณ 315 เมตร กว้าง 75 เมตร ระวางขับน้ำ 50,000 ตัน ส่วนลานบินเป็นแบบ Ski-jump หรือมีลักษณะลาดเอียงขึ้นตรงบริเวณหัวเรือ
อ้างอิง: