สำนักข่าว AFP รายงานความคืบหน้าปมขัดแย้งจากเหตุประท้วงเดือด และเหตุความวุ่นวายในประเทศชิลี เมื่อวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยสถานการณ์ต่างๆ ยังคงยืดเยื้อต่อเนื่องเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 แล้ว ขณะที่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตมากถึง 23 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นเด็กอายุ 13 ปี
เหตุประท้วงในชิลีเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีชนวนเหตุจากปมความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ และการต่อต้านผู้นำทางการเมืองการปกครองที่มาจากครอบครัวผู้มั่งคั่งในประเทศ รวมถึงปัญหาปากท้องและค่าครองชีพที่เกิดขึ้น
จนนำไปสู่ความวุ่นวายและการรวมตัวชุมนุมประท้วงตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ และการทำลายทรัพย์สินตามสถานที่สาธารณะ รวมถึงการเปิดฉากปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร
โดยมีรายงานตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บราว 2,300 ราย ในจำนวนนี้มีประชาชนอย่างน้อย 280 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาจากกระสุนยางและแก๊สน้ำตา อย่างไรก็ดี หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดกว่า 700 ราย พวกเขาก็ได้ตัดสินใจระงับการใช้อาวุธดังกล่าวกับประชาชนแล้ว
ทั้งนี้ หน่วยงานอย่างองค์การ Amnesty International ยังได้ประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามใช้ความรุนแรง และทำให้ผู้ชุมนุมประท้วงในชิลีได้รับบาดเจ็บ (โดยเฉพาะที่บริเวณดวงตา) โดยมีเจตนาเพื่อให้ผู้ชุมนุมหวาดกลัว และต้องการให้การประท้วงยุติลง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: