วันนี้ (27 มีนาคม) เว็บไซต์ AirVisual รายงานสถานการณ์ฝุ่นรอบโลกฉบับเรียลไทม์ (ช่วงเวลา 08.00 น.) พบว่า ผลการจัดอันดับค่าฝุ่นรอบโลก ประเทศไทย เฉพาะเขตเชียงใหม่ มีปริมาณฝุ่นแบบภาพรวมที่ 192 US AQI ส่วนปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 134.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นสาเหตุให้พื้นที่ดังกล่าวถูกยกให้เป็นพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกในช่วงเวลานี้
โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฝุ่นปกคลุมเชียงใหม่และหลายๆ จังหวัดบริเวณภาคเหนือ เกิดจากปัญหาการเผาไหม้ จนก่อให้เกิดไฟป่าหลายจุดในพื้นที่เชียงใหม่
ส่วนบริเวณป่าดอยสุเทพ-ปุย ด้านฝั่งทิศใต้ ที่เกิดเหตุไฟไหม้ป่า และส่งผลให้ค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้นนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามรวบรวมข้อมูลและหารือถึงแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อเข้าระดมดับไฟอย่างเร่งด่วน และยับยั้งสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด
เมื่อเจาะลึกในรายละเอียดพื้นที่เชียงใหม่และจังหวัดโดยรอบ พบว่า 5 พื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เยอะที่สุด และอยู่ในเกณฑ์เกินค่ามาตรฐาน (คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ประกอบไปด้วย
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 885 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- โรงพยาบาลอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะช้าง จังหวัดเชียงราย 468 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- โรงพยาบาลขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน 422 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
- โรงพยาบาลแม่สาย จังหวัดเชียงราย 411 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมควบคุมมลพิษ ได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่งดการเผาในที่โล่ง เพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th/webV2, แอปพลิเคชัน Air4Thai และสามารถติดตามข่าวสารการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ ได้ทางเว็บไซต์ pcd.go.th
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล