×

เกิดอะไรขึ้นกับเชลซี ก่อนฟางเส้นสุดท้ายจะขาดด้วยการไล่ ‘ทูเคิล’ และใครจะเข้ามารับไม้ต่อ?

07.09.2022
  • LOADING...

กลายเป็นข่าวช็อกในชั่วพริบตาของแฟนบอลทั้งโลก เมื่อสโมสรฟุตบอลเชลซีออกแถลงการณ์ปลด โธมัส ทูเคิล พ้นตำแหน่งผู้จัดการทีม หลังต้นฤดูกาลพาทีมออกสตาร์ททำผลงานได้ไม่สู้ดีนัก บวกกับฟางเส้นสุดท้ายคือการพาเชลซีบุกไปปราชัยต่อดินาโม ซาเกร็บ 0-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา

 

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเชลซีฤดูกาลนี้ชวนให้ตั้งคำถามกันหนักพอสมควรว่า เกิดอะไรขึ้นกับเชลซี อะไรคือสิ่งที่ทำให้ทีมแชมป์สโมสรโลกทีมล่าสุดกลายเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนกับผลการแข่งขันไม่ได้อย่างในวันนี้ และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ทูเคิลกลายเป็นกุนซือคนล่าสุดที่ต้องเก็บข้าวของออกจากสแตมฟอร์ดบริดจ์

 

จุดเริ่มต้นฤดูกาลแห่งการเปลี่ยนผ่าน

 

ฤดูกาล 2022/23 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านของเชลซีอย่างแท้จริง หลังจากทีมต้องเปลี่ยนเจ้าของสโมสรจากพิษสงครามรัสเซียบุกยูเครน เดิมอยู่ในมือ โรมัน อบราโมวิช เปลี่ยนมาเป็น ทอดด์ โบห์ลี ขึ้นมากุมอำนาจ พร้อมเปลี่ยนถ่ายผู้บริหารหลายตำแหน่งภายในทีม

 

แต่หากเอาสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องผู้บริหารมาเทียบกับผลงานที่เกิดขึ้นบนสนามในช่วงต้นฤดูกาลแบบนี้อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะทูเคิล ซึ่งตอนนี้กลายเป็นอดีตผู้จัดการทีมเชลซีแล้ว สามารถเลือกช้อปนักเตะในตลาดหน้าร้อนได้ดั่งใจหวังสมัยที่เขายังคุมทีม โดยมีโบห์ลีเดินถือกระเป๋าเงินพร้อมจ่ายให้ตามที่ทูเคิลต้องการ

 

ตลาดนักเตะหน้าร้อนเชลซีใช้เงินไปประมาณ 273 ล้านปอนด์ สูงที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยได้นักเตะชั้นดีมาร่วมทัพมากมาย เช่น ราฮีม สเตอร์ลิง, คาลิดู คูลิบาลี, มาร์ก กูกูเรยา, เวสลีย์ โฟฟานา รวมถึง ปิแอร์ เอเมอริก โอบาเมยอง ที่ได้มาช่วงเดดไลน์วันปิดตลาด

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับฟอร์มการเล่นที่เกิดขึ้นในช่วง 7 นัดที่ผ่านมา ผลการแข่งขันที่ได้รับดูจะสวนทางกับเม็ดเงินที่ลงทุนไปพอสมควร ด้วยผลงาน ชนะ 3, เสมอ 1, แพ้ 3 และยิง 8 ประตู เสีย 10 ประตู

 

ความไม่สม่ำเสมอของฟอร์มการเล่นในภาพรวมที่เกิดขึ้นกับทีม กลายเป็นภาพชินตาของบรรดาแฟนบอลที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดกับทีมรัก เมื่อจู่ๆ เชลซีก็กลายเป็นทีมขาดสมดุลในการเล่นฟุตบอลไปเสียดื้อๆ

 

ทั้งนี้ เมื่อย้อนไปดูผลงานท้ายฤดูกาลก่อน (2021/22) ความไม่สม่ำเสมอนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีสะดุดในลีกจนทำให้การจบท็อปโฟร์ดำเนินไปด้วยความทุลักทุเล ตกรอบยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และพลาดคว้าแชมป์เอฟเอคัพ หลังแพ้การดวลจุดโทษกับลิเวอร์พูล

 

ปัญหาที่เกิดขึ้นกับทีมขณะนั้น ทูเคิลในฐานะผู้จัดการทีมย่อมรู้ดีว่าต้องแก้-เสริมจุดไหน ซึ่งก็มีเวลาช่วงพักฤดูกาลในการเตรียมทีมพอสมควร ทว่าเมื่อพรีเมียร์ลีกรูดม่านเปิดฉากฟาดฟัน เชลซีกลายเป็นทีมที่ฟอร์มหลุดที่สุดในบรรดาทีม ‘Big Six’ และคำถามคือ…ปัญหาอยู่ที่ตรงไหน

 

ผ่าทีมพิสูจน์ปัญหา

 

เชลซีในการดูแลของทูเคิล ฤดูกาลนี้ยังคงยึดมั่นในตำแหน่งเดิมคือ 3-5-2 ที่ใช้มาตั้งแต่เริ่มเข้ามารับตำแหน่ง และทำผลงานได้ดีมาโดยตลอด

 

เริ่มที่ตำแหน่งกองหลัง จากผลงานลงเล่น 7 นัด เสีย 10 ประตู (แม้บางลูกจะมีชื่อของนายประตู เอดูอาร์ เมนดี เป็นผู้รับผิดชอบจากความผิดพลาดส่วนตัวอยู่บ้าง) ในภาพรวมที่เห็นได้ชัดเจนคือ การประสานงานของนักเตะเก่า-ใหม่ยังมีปัญหาในการสื่อสาร และขาดความไม่แน่นอนสูง ทำให้พร้อมโดนลงโทษจากคู่แข่งตลอดเวลา

 

อีกทั้งการมาของคูลิบาลีกับโฟฟานา ตอนนี้ยังไม่สามารถทดแทนการขาดหายไปของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ในแง่ความเร็วและความเด็ดขาดในการเข้าสกัดเกมรุกของคู่แข่ง นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เชลซียังมีข่าวกับเซ็นเตอร์แบ็กของแอร์เบ ไลป์ซิก อย่าง ยอสโก กวาร์ดิโอล แม้ว่าจะยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนในช่วงตลาดรอบที่ผ่านมา

 

ขยับขึ้นมาที่แผงกองกลาง การขาดหายไปของมิดฟิลด์ตัวขยันของทีมอย่าง เอ็นโกโล ก็องเต ส่งผลกระทบกับทีมอย่างมหาศาล ตั้งแต่สปีดบอลที่ตกลง การไล่บี้แย่งบอลในแดนกลาง ไปจนถึงการเชื่อมเกมรุกให้ทีม คือสิ่งที่เลือนหายไปพร้อมกับมิดฟิลด์ ‘เดอะแบก’ ที่ดีที่สุดในโลกยุคนี้

 

แม้ทูเคิลจะพยายามใช้วัตถุดิบที่มีในมืออย่าง รูเบน ลอฟตัส-ชีค, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ผสมกับจอร์จินโญ และ มาเตโอ โควาซิช หรือ เมสัน เมาท์ ก็ดูจะไม่มีความกลมกล่อมเท่าที่ควร ทำให้หลายนัด ไอเดียการเล่นบอลจากแดนกลางที่เคยเป็นจุดแข็งของทีม วันนี้กลายเป็นการเล่นที่ไม่สามารถฝากความหวังได้เลย

 

โดยเฉพาะในรายของกัลลาเกอร์ ที่ตอนนี้ยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งเหมือนช่วงไปยืมตัวกับคริสตัล พาเลซ ฤดูกาลก่อนได้ทันที การเร่งจังหวะการเล่นของตัวเองมากเกินไปคือสิ่งที่ผิดปกติอย่างมาก และการโดนใบแดงไล่ออกในเกมกับเลสเตอร์ ซิตี้ อาจแสดงให้เห็นว่าแข้งวัย 22 ปีกำลังกดดันตัวเองเป็นพิเศษ

 

และอีกจุดที่เป็นปัญหาสำคัญคือแดนหน้า ในส่วนนี้คือตำแหน่งที่ทูเคิลถูกวิจารณ์มากที่สุด ในแง่การปรับการยืนตำแหน่งของนักเตะอย่างสเตอร์ลิงยืนเป็นกองหน้า หรือจับ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ยืนเป็น False 9 ที่แม้นักเตะจะสามารถช่วยกันทำ 4 จาก 8 ประตู (อีก 4 มาจากกองหลังและกองกลาง) แต่ในภาพรวมนั่นไม่ใช่ประสิทธิภาพสูงสุดที่นักเตะทำได้ อีกทั้งการลงเล่นของโอบาเมยองในเกมประเดิมสนามที่พ่ายดินาโม ซาเกร็บ ยังเป็นข้อพิสูจน์ว่ากองหน้าวัย 33 ปียังต้องการเวลาปรับตัวกับทีมมากกว่านี้

 

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากพรีเมียร์ลีกที่น่าสนใจคือ ในบรรดาทีม Big Six เชลซีคือทีมที่สร้างโอกาสยิงประตูได้น้อยที่สุด ด้วยจำนวน 70 ครั้งเท่านั้น! ในตัวเลขนี้แยกเป็นยิงเข้ากรอบเพียง 23 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าปัญหาความฝืดของแนวรุกยังเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังแก้ไม่ตกของเชลซีในยุคทูเคิล

 

และในภาพรวมของทีมที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นที่นักเตะหรือผู้จัดการทีม คือแนวทางการเล่นของทีม ที่ไม่ว่าจะอยู่สถานการณ์ไหน รูปแบบการเล่นของทีมจะไม่ต่างไปจากเดิม รวมถึงไอเดียการเล่นไร้มิติในการประสานงาน จนทำให้มักจะถูกลงโทษจากทีมคู่แข่งอยู่เสมอ 

 

ความมั่นใจที่หดหาย

 

เรื่องของความมั่นใจและไร้ซึ่งความกระหายในการเล่นเริ่มถูกพูดมากขึ้นในช่วงหลัง และถูกพูดจากปากของทูเคิลหลังพาทีมบุกพ่ายดินาโม ซาเกร็บ 0-1 เมื่อคืนนี้ 

 

“ผมโกรธตัวเอง ผมโกรธฟอร์มการเล่นของเรา เราเล่นไม่ดุดันพอ มันเห็นได้ชัดว่าเราเล่นกันได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่มีความมุ่งมั่นและความกระหาย และนั่นทำให้คุณไม่สามารถคาดหวังที่จะชนะการแข่งขันได้

 

“ผมรู้ว่าเราต้องการเวลาในการหาทางแก้ไข ในเกมคืนนี้เราเริ่มต้นได้โอเค แต่แล้วจู่ๆ เราก็ขาดความแม่นยำ และความกระหายในการล่าประตู”

 

เช่นเดียวกับ โจ โคล อดีตนักเตะแนวรุกของเชลซี ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของเชลซีกับ BT Sport ไว้ว่า “พวกเขาทั้งหมดดูไม่มีความมั่นใจ พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้คำว่าคุณภาพมันไม่ได้เกิดขึ้นกับนักเตะอย่าง คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเยค และคนอื่นๆ ในทีม

 

ชนวนเหตุสำคัญทำให้ทูเคิลถูกปลด?

 

กระจกมักมี 2 ด้าน และว่ากันว่าปัญหาที่ทูเคิลเผชิญนั้นไม่ใช่แค่เรื่องผลงานฟอร์มการเล่นในสนาม!

 

หลังจากที่โบห์ลีเข้ามาเทกโอเวอร์ มีการเปลี่ยนแปลงในระดับผู้บริหารที่สำคัญ โดยเฉพาะการจากไปของ ปีเตอร์ เช็ก ที่ทำหน้าที่ที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิค และผลงานที่ช่วยเหลือ มารินา กรานอฟสกายา อดีตผู้อำนวยการสโมสรคนเก่ง ทำให้โบห์ลีโยนความรับผิดชอบส่วนนี้ (การมองหานักเตะเพื่อเสริมทัพ) ให้แก่ทูเคิล และทำให้มีปัญหาตลอดช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบที่ผ่านมา

 

อีกมุมหนึ่งมีรายงานจาก The Telegraph ระบุว่า ทูเคิลเริ่มมีปัญหากับผู้เล่นภายในทีม โดยเฉพาะในระยะหลังกับลูกทีมจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะการจัดทีมที่หลายคนรู้สึกว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จนต้องหลุดจากทีม หรือต้องเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัด 

 

ใครคือคนที่ใช่ของ (ทอดด์) เชลซีในเวลานี้?

 

ตามรายงานของสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า เชลซีกำลังให้ความสนใจในการพา เกรแฮม พอตเตอร์ ผู้จัดการทีมวัย 47 ปี ของไบรท์ตัน ที่ทำผลงานพาทัพนกนางนวลติดท็อป 4 ในเวลานี้ เข้ามานั่งแท่นผู้จัดการทีมคนต่อไป ซึ่งต้องรอติดตามต่อไปว่า ท้ายที่สุดพอตเตอร์จะตกปากรับคำมารับเผือกร้อนชิ้นนี้หรือไม่

 

นอกจากนี้ยังมีในรายของสองกุนซือที่ว่างงานในตอนนี้อย่าง เมาริซิโอ โปเชตติโน และ ซีเนดีน ซีดาน ไปจนถึง โรเจอร์ ชมิดท์ โค้ชของเบนฟิกา อยู่ในลิสต์ที่เชลซีพร้อมพิจารณาด้วยเช่นกัน

 

สำหรับนัดต่อไป เชลซีมีคิวบุกทำศึกลอนดอนดาร์บีกับฟูแลม ในวันเสาร์ที่ 10 กันยายน เวลา 18.30 น. โดยมี แอนโธนี แบร์รี จะรับหน้าที่คุมทีมเป็นการชั่วคราวแทน

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising