วันนี้ (3 เมษายน) ที่จังหวัดสุพรรณบุรี วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนนำผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนา จังหวัดสุพรรณบุรี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนมาสมัครที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต วิทยาเขตสุพรรณบุรี
สำหรับการเลือกตั้งทั้ง 5 เขตของจังหวัดสุพรรณบุรี แน่นอนว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ประมาท ถึงแม้ว่าเราจะ มีโอกาสทำงานมานาน แต่เวลาเปลี่ยน ดังนั้นความประมาทก็จะเป็นหนทางสู่ความพ่ายแพ้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ได้สอนไว้ และเป็นแนวทางการทำงานที่พรรคชาติไทยพัฒนายึดมาตลอด ทั้ง 5 เขตของเรา ผู้สมัครทุกคนเป็นผู้สมัครที่ไม่ประมาทและทำงานอย่างเข้มข้น ตามติดใกล้ชิดกับพื้นที่ ในวันนี้มีหลายพรรคที่ให้ความสนใจลงสมัครในจังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย แต่ละพรรคนั้นมีแนวทางต่างกันไป แต่ชาติไทยพัฒนามั่นใจว่าด้วยการที่ทำงานในพื้นที่มานาน บวกกับความไม่ประมาท พรรคเราจะสามารถครองใจได้คะแนนเสียงของพี่น้องชาวสุพรรณบุรีทั้ง 5 เขตเหมือนอย่างที่เคยทำมา
“ขอฝากพี่น้องชาวสุพรรณบุรีทั้ง 800,000 กว่าคน ว่าครั้งนี้ให้โอกาสพรรคชาติไทยพัฒนาได้มีโอกาสเข้ามารับใช้พี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรีอีกครั้งหนึ่ง เราไม่เคยพูดว่าสุพรรณบุรีเป็นของพรรคการเมืองใดหรือตระกูลใด แต่การที่เราได้ทุ่มเททำงานกันมาตั้งแต่สมัยพ่อบรรหารมาจนถึงทุกวันนี้เป็นสองชั่วอายุคนแล้ว และเราก็ยังขออาสาทำงานให้กับพี่น้องชาวสุพรรณบุรีต่อ เราทุ่มเททำงานตลอดระยะเวลา ไม่เพียงแค่ช่วงการหาเสียง ดังนั้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหาขอฝากพรรคชาติไทยพัฒนาทั้ง 5 เขต สุพรรณบุรี และบัญชีรายชื่อของพรรคชาติไทยพัฒนา ให้อยู่ในความดูแลของพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรีทุกคนด้วย” วราวุธกล่าว
วราวุธกล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องที่แต่ละเขตได้หมายเลขไม่เหมือนกันนั้น เป็นเรื่องที่ผู้สมัครในแต่ละเขตจะต้องหากลยุทธ์ในการทำงาน เพราะในวันที่ 4 เมษายนจะมีการจับเบอร์ของแบบบัญชีรายชื่อ เท่ากับว่าใครได้เบอร์เดียวกับพรรคก็โชคดีไป แต่ถ้าได้คนละเบอร์ก็ต้องเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และขอฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการที่จะออกแบบบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ชนิด ว่าจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ขอฝาก กกต. ว่าจะออกแบบวิธีใดเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับพี่น้องประชาชนในการลงคะแนน
วราวุธกล่าวอีกด้วยว่า สำหรับเขต 4 ของ เสมอกัน เที่ยงธรรม และเขต 5 ของ ประภัตร โพธสุธน นั้น เป็นอีก 2 เขตที่เราต้องจับตาดูเป็นพิเศษและไม่ประมาท ประภัตรในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ถึงแม้ว่ามีภารกิจในการช่วยลูกพรรคหาเสียง ก็ขอให้ทั้งสองเขตดำเนินการอย่างรัดกุมและไม่ประมาทตามแนวทางที่พรรคได้วางไว้
