วันนี้ (25 พฤษภาคม) ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำว่า ชาติไทยพัฒนาเรานิ่ง เพราะเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในตรงนั้น รอดูทั้ง 8 พรรคหลังจากที่เซ็น MOU กันแล้วว่าเขาจะดำเนินการไปอย่างไร เราเป็นผู้ดู ทั้งนี้ ตนได้อ่าน MOU ทุกข้อแล้ว แต่ไม่มีความเห็น เป็นเรื่องของพรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคที่เขาเซ็นร่วมกัน เราเป็นคนนอก ขอเป็นผู้ดู
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อไหนที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ กัญจนากล่าวว่า ขออนุญาตไม่ออกความเห็น เพราะจะเป็นการไม่ดี เนื่องจากเราไม่ได้มีส่วนร่วม ขอดูไปพร้อมกับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีทั้งบวกทั้งลบ ถือเป็นธรรมดา ทำอะไรย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งขึ้นอยู่กับ 8 พรรคร่วมที่เซ็นร่วมกันว่าจะรับฟังอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ใน MOU ไม่ได้ระบุเรื่องมาตรา 112 หากพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าสภาผู้แทนราษฎรไปทำงานแล้ว ทางพรรคก้าวไกลเสนอให้มีการแก้ไขชาติไทยพัฒนาจะมีจุดยืนอย่างไร กัญจนากล่าวว่า วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ได้พูดถึงจุดยืนไปหลายครั้งแล้ว เราคิดว่าตัวกฎหมายเองไม่ใช่ปัญหา อาจจะมีปัญหาบ้างในการบังคับใช้ ซึ่งต้องไปพูดคุยกัน วราวุธย้ำจุดยืนของพรรคไปหลายครั้งแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี จุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนามีอย่างไร จะยกมือสนับสนุนหรือไม่ กัญจนากล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น ยังมีขั้นตอนอีกหลายอย่างกว่าจะไปถึงขั้นตอนนั้น กว่าจะรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง ส.ส. โหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร กว่าจะไปถึงตรงนั้นยังมีเวลา และเมื่อถึงเวลาชาติไทยพัฒนาต้องประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากเห็นคนที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาลมีสเปกอย่างไร กัญจนากล่าวว่า ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเจริญ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ดูแลรักษาประเทศชาติตั้งแต่ระดับรากหญ้าและนำประเทศไทยไปสู่สากลได้ ทำสิ่งที่ยั่งยืนและส่งต่อประเทศที่ดีงามไปถึงรุ่นลูกหลาน รักษาทรัพยากรธรรมชาติเอาไว้
“ดิฉันคิดว่านักการเมืองทุกคนน่าจะคิดดีกับแผ่นดินไทยอยู่แล้วถึงได้อาสาเข้ามาเป็นนักการเมือง แต่คนที่อาสามาเป็นนายกฯ อาจจะต้องมีระดับดีกรีตรงนี้สูงกว่าหน่อย เพราะเป็นนายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล แต่เชื่อมั่นว่านักการเมืองทุกคนที่อาสามาทำงานคงหวังดีกับประเทศชาติและประชาชนเหมือนๆ กัน” กัญจนากล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่มีการยื้อแย่งไม่ชัดเจนอยู่ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล กัญจนากล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของ 2 พรรคใหญ่ว่าจะวางตัวกันอย่างไร มีคุณสมบัติอย่างไร ตัวบุคคลของแต่ละพรรคมีคุณสมบัติเพื่อวางตัวอย่างไร เราเป็นคนนอก ขอเป็นผู้ดูเช่นกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คนที่เป็นประธานสภาที่ผ่านมาเก่งด้านกฎหมายและควบคุมการประชุมได้ มองว่าประธานสภาควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร กัญจนากล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัว ประธานสภาต้องเก่งเรื่องกฎหมายพอสมควร อย่างที่ผ่านมา ชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาวางมาตรฐานไว้ดีมาก แม่นกฎหมาย แม่นข้อบังคับ มีลูกล่อลูกชน ทำบรรยากาศที่ตึงเครียดให้ผ่อนคลายลง ชวนมีบารมีที่จะเบรกเรื่องต่างๆ ที่ดูไม่เหมาะสม ท่านวางประธานสภาไว้สูงมาก ซึ่งน่าจะเป็นตัวอย่างคนที่เป็นประธานสภาคนต่อๆ ไปที่จะได้ดูชวนเป็นตัวอย่าง
