วันนี้ (2 พฤศจิกายน) เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการให้ กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เตรียมความพร้อมแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางศึกษาธรรมชาติทั่วประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาวนี้ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินป่าและกิจกรรมอาบป่า (Forest Bathing) มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติในประเทศไทยมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติรวมมากกว่า 300 เส้นทาง มีระยะทางรวมมากกว่า 900 กิโลเมตร ระยะทางสั้นๆ ตั้งแต่ 100 เมตรไปจนถึงไกลสุด 64 กิโลเมตร โดยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะไกล คือเส้นทางที่มีระยะทาง 2 กิโลเมตรขึ้นไป เน้นเรื่องของการออกกำลังกายกลางแจ้ง มีจำนวน 80 เส้นทาง
สำหรับในภาคเหนือ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน ซึ่งมีเส้นทางให้เลือกหลากหลาย ทั้งเส้นทางระยะไกลดอยภูแล, เส้นทางเด่นช้างนอน, เส้นทางน้ำตกขุนน้ำปัว, เส้นทาง 1,700 และเส้นทางดอกชมพูภูคา นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่, เส้นทางดอยค้ำฟ้า ในอุทยานแห่งชาติผาแดง และจุดชมวิวยอดภูชี้ฟ้าในอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้าที่สวยงามโดดเด่น
ภาคกลางและภาคตะวันออก โดดเด่นด้วยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ นครนายก, สระบุรี, นครราชสีมา และปราจีนบุรี มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกกองแก้วและน้ำตกเหวสุวัต ส่วนในภาคกลางมีเส้นทางเดินป่าระยะไกลที่ท้าทาย เช่น ยอดเขาโมโกจูในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์ เส้นทางเดินป่าระยะไกลยอดเขาเย็นและยอดเขาขนุนในอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า จังหวัดกำแพงเพชรและตาก
ภาคตะวันตกและภาคใต้ มีเส้นทางที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่ายางนาในอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกปุญญบาลในอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี จังหวัดระนอง และเส้นทางชมบัวผุดบ้านสะพานนาคในอุทยานแห่งชาติคลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ไฮไลต์สำคัญในปีนี้คือการเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งใหม่ ‘สันพญานาค’ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมชมทัศนียภาพที่สวยงามตลอดเส้นทาง และเส้นทางศึกษาธรรมชาติต้นพระเจ้าห้าพระองค์ ในอุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน จังหวัดน่านและพะเยา จุดชมทิวทัศน์ลานกางเต็นท์ม่อนพระยาแช่ และเส้นทางหน้าผากช้าง-กิ่วสน-ดอยฝรั่ง ในอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต จังหวัดลำปาง และเส้นทางเดินป่าระยะไกลยอดเขาหลวง อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหลายแห่ง เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ที่โดดเด่นด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศภูเขาสูง เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ระบบนิเวศป่าดิบเขา และดอยม่อนจองในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ที่มีจุดชมวิวทิวทัศน์อันงดงาม
ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล กรมอุทยานฯ เตรียมพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลชื่อดังหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์และหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา, อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ กรมอุทยานฯ เตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง โดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีป้ายสื่อความหมายและจุดพักตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับทั้งความรู้และความเพลิดเพลินในการรับบริการ