×

ชัยธวัชลงดาบแรกฝ่ายค้าน ‘ประชาธิปไตยไหลย้อนกลับ’ เศรษฐาย้ำ รัฐบาลโปร่งใส ถ้ากล่าวหาขอดูหลักฐาน

โดย THE STANDARD TEAM
03.04.2024
  • LOADING...
Chaithawat Tulathon

วันนี้ (3 เมษายน) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 32 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งสมาชิกพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เข้าชื่อกันตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ชัยธวัช ตุลาธน สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ลุกขึ้นอภิปรายแถลงญัตติเพื่อเปิดอภิปรายทั่วไป

 

ชัยธวัชได้สรุปเนื้อหาญัตติว่าด้วย ครม. ภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่มิได้ดำเนินการหรือทำตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตน ขาดประสิทธิภาพหรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่มีการขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม และนโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความเป็นจริง

 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีและ ครม. ยังมีพฤติกรรมที่ทำลายความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ รัฐบาลปล่อยปละละเลยให้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเอารัดเอาเปรียบประชาชน ระบบราชการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ หรือเกิดการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย แทนที่จะเร่งฟื้นฟูหลักนิติรัฐ นิติธรรม กลับเกิดการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ทำลายหลักความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางกฎหมายและการเมือง

 

ชัยธวัชกล่าวต่อไปว่า หลังการเลือกตั้งเราหวังอยากได้ผู้นำประเทศคนใหม่ที่ต่างไปจากท่านผู้นำหลังการรัฐประหาร แต่เวลาผ่านไปเรากลับพบว่า เราได้นายกรัฐมนตรีที่ไร้วุฒิภาวะไปอีกแบบ หลายครั้งท่านก็สับสนว่าท่านเป็นใคร ท่านมีอำนาจทำอะไรได้บ้าง ขาดภาวะผู้นำในการสร้างความเชื่อมั่นและความชัดเจนในทิศทางของรัฐบาล ซ้ำร้ายการจัดสรรรัฐมนตรียังเป็นไปตามโควตา สมบัติผลัดกันชม

 

นอกจากนี้แทนที่รัฐบาลจะผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก กลับได้เห็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจผูกขาดหรือเอื้อประโยชน์ทุนใหญ่ เต็มไปด้วยการฉ้อฉลเชิงนโยบาย เปิดทางให้รัฐมนตรีและพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ขณะที่การปฏิรูปการเมืองก็ยังวนไปวนมา ไม่มีความชัดเจนในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

 

ชัยธวัชชี้ว่า วิกฤตศรัทธาในวงการยุติธรรม เช่น ตั๋วตำรวจและส่วยต่างๆ เป็นเหตุให้ความเสมอภาคเท่าเทียมในการบังคับใช้กฎหมายและในกระบวนการยุติธรรมถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ไม่ควรอ้างว่า ‘ไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างอยู่’ เพราะพี่น้องประชาชนอยากอยู่ในระบบเดียวกัน ประเทศเดียวกัน ในหนึ่งระบบที่พวกเราได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเสมอภาคกัน ต่อหน้ากฎหมายฉบับเดียวกัน

 

“สิ่งที่เราได้กลับกลายเป็นประชาธิปไตยแบบไหลย้อนกลับ ที่ผู้นำผู้มีอิทธิพลทางการเมืองลุแก่อำนาจ ได้คืบจะเอาศอก พยายามผูกขาดอำนาจทั้งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจไว้ในมือของชนชั้นนำไม่กี่กลุ่ม” ชัยธวัชกล่าว

 

ย้ำรัฐบาลโปร่งใส ถ้ามีข้อกล่าวหาขอหลักฐาน

 

หลังจากผู้นำฝ่ายค้านแถลงญัตติแล้วเสร็จ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นกล่าวชี้แจงทันที โดยระบุว่า เชื่อว่าหลายอย่างที่รัฐบาลนี้ทำอยู่พยายามทำให้เป็นเรื่องทางบวก เรื่องของแสงสว่างในอนาคตที่พี่น้องประชาชนจะได้เห็น แต่ถ้ายังมีข้อกังขาอยู่ก็บอกมา เชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านพร้อมจะตอบ จะชี้แจง และหลังจากอนุมัติงบประมาณไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มั่นใจว่าเราจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

 

เศรษฐายืนยันว่า รัฐบาลตระหนักดีและไม่ได้เพิกเฉยต่อค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนที่สูงขึ้นมา ทั้งเรื่องหนี้นอกระบบ หนี้เกษตรกร ราคาพลังงาน และยังมีคณะทำงานแก้ปัญหายาเสพติด ในไตรมาส 4 ปีที่แล้วก็มีการจับยาบ้าได้มากกว่าปีก่อนนั้นทั้งปี ถือเป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ว่าเราทำงานและกวดขันเรื่องนี้เป็นอย่างดี 

 

ขณะที่เรื่องท่องเที่ยวเพื่อหารายได้ให้ประชาชนก็มีอีกหลายอย่าง ทั้งเรื่องวีซ่าฟรีไทย-จีน ทำให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจยกระดับขึ้น อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลา แต่การพัฒนาเรื่องเหล่านี้เป็นไปในทิศทางที่ดีและพี่น้องประชาชนก็ได้ประโยชน์สูงสุด

 

ส่วนเรื่องฝุ่น PM2.5 รัฐบาลก็ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าสู่สภา แม้ปัจจุบันนี้จังหวัดเชียงใหม่ก็ยังมีปริมาณฝุ่นติดอันดับโลกอยู่ แต่ในปีนี้ปริมาณจุดความร้อนก็ลดลงไปมาก ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ยิ่งหย่อนในการทำงาน

 

“พวกท่านก็บอกอยู่แล้วว่าผมเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ผมขอชี้แจงว่า จาก 10 กว่าครั้งก็เกือบครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องที่เราควรต้องไป เป็นเรื่องของอาเซียนที่ประชุมกันเป็นประจำอยู่แล้ว เราเป็นน้องใหม่ เป็นผู้นำที่เพิ่งเข้าสู่ตำแหน่ง เราก็ควรต้องไป ไปพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนนโยบายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ประเทศไทยมีตัวตนบนเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็น World Economic Forum ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราไม่มีผู้นำเดินทางไป 12 ปีแล้วครับ” เศรษฐากล่าว

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า โครงการต่างๆ ต้องใช้เวลา เราเพิ่งมาทำงานได้ 7 เดือนเท่านั้นเอง เชื่อว่าทุกท่านทำงานหนัก รัฐมนตรีทุกท่านมีความปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชน หากสมาชิกมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆ ก็ยินดีรับฟัง ถ้ามีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐาน ขอเหตุผลมา เรื่องของกระบวนการยุติธรรมต่างๆ เหล่านี้เชื่อว่าประเทศไทยเราหลังมีการเลือกตั้งผ่านมา เรามีการก้าวหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น รวมทั้งยินดีรับข้อเสนอแนะจากสมาชิกทุกท่าน และรัฐมนตรีก็พร้อมให้ความกระจ่างกับสมาชิกในทุกๆ เรื่อง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising