วันนี้ (27 พฤษภาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) จักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม., ภิมุข สิมะโรจน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า ลงพื้นที่บริเวณที่ดินรกร้างแยกวงศ์สว่าง เพื่อพูดคุยกับเอกชนในการยกที่ดินให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำเป็นสวนสาธารณะ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามชัชชาติว่า การลงพื้นที่พร้อมกับอีกสองท่านถือเป็นการเปิดตัวรองผู้ว่าฯ กทม. เลยหรือไม่ ชัชชาติกล่าวว่า ทั้งสองท่านจะมาช่วยทำงานอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นตำแหน่งไหนให้รอประกาศอีกครั้ง วันนี้ให้มาทดลองงานก่อนว่าทำงานดีหรือไม่ สำหรับชุดทำงานตนเองได้พูดคุยทั้งหมดแล้ว และมีครบหมด 3 กลุ่มชุดทำงาน กลุ่มแรกคือรองผู้ว่าฯ และเลขา มีทั้งหมด 5 คน และกลุ่มที่ปรึกษาการเมือง 9 คน กลุ่มที่สามคือกลุ่มที่ปรึกษาทางวิชาการ ไม่เกี่ยวกับการเมือง กลุ่มนี้มีจำนวนมาก เป็นที่ปรึกษาเฉพาะทาง ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงหาเสียงมาช่วยงานไม่ได้เพราะเป็นเรื่องการเมือง แต่หลังตนได้ตำแหน่งแล้วกลุ่มนี้จะเปิดตัวได้ชัดเจนขึ้น และตอนนี้ครบแล้ว
ชัชชาติกล่าวอีกว่า เงื่อนไขที่เลือกจักกพันธุ์มาร่วมงานเพราะสามารถตื่น 04.00 น. มาคุยงานกับตนได้ เป็นคนสบายๆ ที่ผ่านมาหากติดขัดอะไรมีข้อมูลประสานให้ได้หมด และจักกพันธุ์เป็นคนขยัน ใจบุญ ซื่อสัตย์สุจริต และได้รับการรับรองจากข้าราชการ กทม. หลายคน ส่วนภิมุขถือว่าทำงานด้วยกันมานาน เป็นนักธุรกิจ ทำการเมืองได้ บุคลิกดี ลุยด้วยกันได้ และเคยทำการเมือง เข้าใจประชาชนได้ ครบในทุกมิติ แต่จะได้ตำแหน่งเลขาหรือไม่ต้องพิจารณาอีกที
ชัชชาติระบุด้วยว่า ทุกคนที่มาช่วยไม่มีใครอยากได้ตำแหน่ง จากคนที่มาช่วยเป็น 100 คน ก็จะดูว่าคนไหนเหมาะกับงานอะไร ซึ่งนี่เป็นข้อดีของการเป็นอิสระ เพราะอิสระทุกตำแหน่งตนเป็นคนเลือกด้วยมือตัวเอง ไม่ต้องมีคนมาสั่ง นี่คือสิ่งที่ทำให้สบายใจ และคนทำงานก็สบายใจ และมองว่านี่คือพลังของความเป็นอิสระ เพราะสามารถเลือกคนที่ทำให้มั่นใจ ทีมงานคัดเลือกมาอย่างดี
ขณะที่จักกพันธุ์กล่าวว่า พร้อมรับตำแหน่งหากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลของผู้ว่าฯ แล้ว ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจมาร่วมงานมองว่า กทม. ต้องพัฒนาอีกเยอะ และที่ผ่านมาปัญหาเรื่องการเมืองค่อนข้างเยอะ ตอนที่ตนเองตัดสินใจเข้าร่วมกับชัชชาติเพราะความเป็นอิสระ ซึ่งตนเองมองว่าหากการบริหารงานมีความเป็นอิสระก็จะทำให้ กทม. เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างมากมาย และชัชชาติเป็นคนเก่ง เป็นคนดี รวมถึงมีความรู้ ความสามารถ ช่วยพัฒนา กทม. ได้
ส่วนภิมุขกล่าวว่า สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจมาร่วมงานกับชัชชาติเพราะชอบงานการเมืองอยู่แล้ว แต่ช่วงที่เว้นวรรคไปเพราะเห็นบรรยากาศมีความขัดแย้งมากและตนชอบงาน กทม. เป็นหลัก พอเห็นชัชชาติมาตั้งทีมทำงาน กทม. แบบอิสระ ก็คิดว่าตัวเองน่าจะมาช่วยได้เลยอาสาตัวเข้ามา และยืนยันว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องตำแหน่ง แค่อยากมาช่วยงานเท่านั้น
