วันนี้ (2 เมษายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 8 หาเสียงต่อเนื่องในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร มีผู้ค้าและประชาชนเข้ามาทักทายและให้กำลังใจตลอดเส้นทาง ชัชชาติกล่าวว่า แม้ยินดีที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงและกังวลต่อความเดือดร้อนของผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซาต่อเนื่อง ผู้ค้าสะท้อนให้ชัชชาติฟังว่า จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังคงบางตา แม้ไทยประกาศเปิดประเทศแล้ว
ชัชชาติกล่าวว่า ตลาดนัดจตุจักรเป็นตลาดขนาดใหญ่ในการดูแลของ กทม. ปัจจุบันมีแผงค้า 8,000 แผงค้า แบ่งเป็น 27 โครงการ มีสินค้าหลากหลายประเภท เช่น เสื้อผ้า ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง รวมทั้งเป็นตลาดจำหน่ายสินค้าสร้างสรรค์หลายประเภท เช่น เครื่องประดับ, งานฝีมือ, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องหนัง ฯลฯ ชัชชาติ ชูนโยบายพัฒนาตราสินค้าสร้างสรรค์ Made in Bangkok (MIB) เพื่อขยายโอกาสและช่องทางการจำหน่ายสินค้าสร้างสรรค์ที่ผลิตในกรุงเทพฯ และกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจหาเสียงที่ตลาดจตุจักร ชัชชาติเดินทางไปหาเสียงต่อที่เท ฟลี มาร์เก็ต สวนหลวงสแควร์ เขตปทุมวัน นับเป็นตลาดที่ 5 ของภารกิจหาเสียงวันนี้ ที่สวนหลวงสแควร์ ชัชชาติได้สำรวจแนวทางขายสินค้าของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ปรับรูปแบบสินค้าและวิธีการจัดจำหน่ายให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชัชชาติได้เริ่มต้นหาเสียงที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 ตลาด อ.ต.ก. และเจเจมอลล์ เขตจตุจักร ตลอดเส้นทางการหาเสียงมีประชาชนต้อนรับอย่างอบอุ่น ขณะเดียวกันได้สะท้อนปัญหาด้านต่างๆ ให้ชัชชาติรับฟังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจปากท้อง ชัชชาติย้ำนโยบาย กรุงเทพฯ ถูกลงได้ ด้วยการบริหารจัดการตลาดใน กทม. เพื่อลดภาระของผู้ค้าในตลาด เพื่อให้ราคาสินค้าถูกลง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภค